tag:blogger.com,1999:blog-68597757272496690552024-03-14T02:01:18.505-07:00psPeople Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.comBlogger51125tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-45047011150732004902010-12-22T09:12:00.000-08:002010-12-22T10:45:26.150-08:00In Memory ... อาจารย์ประทุมพร วัชรเสถียร<div align="left"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjHFP3vbxN8-y1UnD-Fke8fsRLuNI2A8fjoNjQw7WUk6M-vxEJHkEgRMM6SFthe6iYBw83VhXSOaAq3avW7MVUuAlXfLnLC6xkxnFFwXsUvuwhOu7FSXvTe6phs4MKxqnkw_ubgEJ5lFn4/s1600/aj+pratumporn+sepia.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5553555980392474850" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 286px; CURSOR: hand; HEIGHT: 400px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjHFP3vbxN8-y1UnD-Fke8fsRLuNI2A8fjoNjQw7WUk6M-vxEJHkEgRMM6SFthe6iYBw83VhXSOaAq3avW7MVUuAlXfLnLC6xkxnFFwXsUvuwhOu7FSXvTe6phs4MKxqnkw_ubgEJ5lFn4/s400/aj+pratumporn+sepia.jpg" border="0" /></a><br /><br /><br /><br /><br /><p><span style="color:#663333;">... เมื่อราวครึ่งศตวรรษมาแล้ว จำได้ว่า วันหนึ่งได้ไปนั่งรอผู้ใหญ่ทำธุระอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่ง </span><span style="color:#663333;">ไม่ทราบ</span></p><p><span style="color:#663333;">ชื่อของสถานที่นั้น และจำไม่ได้ว่าไปอย่างไรมาอย่างไร จำได้แต่เพียงภาพรางๆ </span><span style="color:#663333;">ของสถานที่กว้างขวาง</span></p><p><span style="color:#663333;">แห่งหนึ่งมีต้นไม้ร่มรื่น มีอาคารเรียงต่อเนื่องกันเป็นแนวตรงบ้างขวางบ้าง </span><span style="color:#663333;">ข้างล่างด้านหน้าของอาคาร</span></p><p><span style="color:#663333;">เหล่านั้นมีประตูบานเฟี้ยมเปิดปิด ส่วนข้างบนเป็นหน้าต่างอยู่ใต้กันสาด</span><span style="color:#663333;">ติดไม้ฉลุโดยรอบอย่างสวยงาม</span></p><p></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;">ขณะที่อยู่ในสถานที่แห่งนั้นและมองเห็นภาพอาคารสีเนื้อจางๆ อยู่เบื้องหน้า ในใจมีความรู้สึกเย็นฉ่ำ</span></p><p><span style="color:#663333;">ชุมชื่น</span><span style="color:#663333;">อย่างไรบรรยายไม่ถูก คล้ายๆ กับมีความรู้สึกว่าสถานที่นั้นยินดีต้อนรับและมีความเป็นมิตรต่อ</span></p><p><span style="color:#663333;">คนแปลกหน้า</span><span style="color:#663333;">อย่างยิ่ง</span></p><p><span style="color:#663333;"></span> </p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;">แล้วเวลาก็ผ่านไปหลายทศวรรษโดยที่มิได้กลับไปยังสถานที่แห่งนั้นอีกเลย นึกถึงภาพและบรรยากาศ</span><span style="color:#663333;">ใน</span></p><p><span style="color:#663333;">วันนั้นคราวใด ก็ไม่ทราบว่าสถานที่นั้นคืออะไร อยู่ที่ไหน จะให้สอบถามใครก็สูญหายตายจากไปเสียแล้ว</span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;">อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อเช้าตรู่ของวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2545 ขณะที่ตั้งใจจะเดินชมกรุงเทพฯคนเดียว </span><span style="color:#663333;">ในวันที่</span><span style="color:#663333;">การ</span></p><p><span style="color:#663333;">จราจรโล่งว่าง ก็ได้เดินไปปะทะกับสถานที่นั้นโดยไม่รู้ตัว คราวนี้อาคารที่เคยจำคลับคล้าย</span><span style="color:#663333;">คลับคลา</span><span style="color:#663333;">ได้ว่า</span></p><p><span style="color:#663333;">เป็นอาคารสีเนื้อสลับสีไม้ธรรมชาติได้กลายเป็นสีเหลืองไข่ไก่และเขียวอ่อนเขียวแก่</span><span style="color:#663333;">ผสมผสานกันเสียแล้ว </span></p><p><span style="color:#663333;">แต่บรรยากาศเก่าๆ ยังคงอยู่อย่างเดิม คือ ร่มรื่น ชื่นฉ่ำ และเป็นมิตร</span></p><p><span style="color:#663333;"></span> </p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;">วันนั้นเพิ่งบรรลุถึงสัจจะว่า สถานที่แห่งนั้นคือ 'แพร่งภูธร' นั่นเอง หลังจากนั้นไม่กี่วัน โครงเรื่องและ</span><span style="color:#663333;">ตัวละคร</span></p><p><span style="color:#663333;">เรื่อง 'อยู่เย็น...เป็นสุข' ก็วิ่งแข่งกันมายืนอออยู่ตรงหน้าขอให้เขียนถึง</span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;">นี่คือที่มาของนวนิยายเรื่องนี้ ซึ่งเกิดขึ้นและดำเนินไประหว่างที่ผู้เขียนกำลังมีความสนใจและตั้งใจ</span><span style="color:#663333;">ที่จะมี</span></p><p><span style="color:#663333;">ส่วนแม้แต่เพียงน้อยนิด ที่อยากจะสื่อสารให้ชาวกรุงเทพฯ (รวมทั้งชาวไทยทั้งประเทศ) </span><span style="color:#663333;">ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ </span></p><p><span style="color:#663333;">ณ แห่งหนตำบลใด ให้ได้มาทำความรู้จักกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของชุมชนของตน </span><span style="color:#663333;">ให้ได้รู้จักชาวถิ่นใน</span></p><p><span style="color:#663333;">อดีตและปัจจุบัน และได้ช่วยกันอนุรักษ์สถานที่และสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้น </span><span style="color:#663333;">หากผู้อยู่อาศัยในชุมชนทุก</span></p><p><span style="color:#663333;">แห่งในกรุงเทพฯ รู้จักดูแลรักษาชุมชนของตนเองเช่นนี้แล้ว กรุงเทพฯ</span><span style="color:#663333;">ก็จะสวยงามยั่งยืนตลอดไป โดยไม่</span></p><p><span style="color:#663333;">ต้องออกแรงมากมายเลย</span></p><p><span style="color:#663333;"></span> </p><p><span style="color:#663333;"><span style="font-size:+0;"></span></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;">และหากว่าทางการบ้านเมืองต้องการให้ความช่วยเหลือในการอนุรักษ์แก่ชุมชนต่างๆ เหล่านี้ </span><span style="color:#663333;">ก็ขอให้เน้นย้ำ</span></p><p><span style="color:#663333;">การอนุรักษ์ที่รักษาสภาพเดิม มิใช่อาศัยเพียงแค่สถานที่เดิม แต่เปลี่ยนแปลงสิ่งก่อสร้าง</span><span style="color:#663333;">และประโยชน์ใช้</span></p><p><span style="color:#663333;">สอยเสียใหม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว วันหนึ่งกรุงเทพฯจะกลายเป็นมหานครที่</span><span style="color:#663333;">ปราศจากรากอย่างน่าเสียดาย</span></p><p><span style="color:#663333;">ประวัติและความเป็นมาอันยาวนาน และจะตัดตอนความต่อเนื่อง</span><span style="color:#663333;">ของชาวกรุงเทพฯรุ่นเก่ารุ่นใหม่ออกจากกัน</span></p><p><span style="color:#663333;">อย่างแลไม่เห็นหน้าหลังของกันและกันเลย ...</span></p><p><span style="color:#663333;"></span> </p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"></span></p><p><span style="color:#663333;"><strong></strong></span></p><p><span style="color:#663333;"><strong></strong></span></p><p><span style="color:#663333;"><strong>คำนำจากหนังสือ 'อยู่เย็น...เป็นสุข' โดย ดวงใจ (ประทุมพร วัชรเสถียร)</strong></span></p><p><strong><span style="color:#663333;"></span></strong></p><p><strong><span style="color:#663333;">----------------------------------------------------------------------------------------</span></strong></p><p><strong><span style="color:#663333;"></span></strong> </p><p><strong><span style="color:#663333;"></span></strong> </p><p><strong><span style="color:#663333;"></span></strong></p><p><strong><span style="color:#663333;"></span></strong></p><p><em><span style="color:#663333;"></span></em></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;">ที่ตั้งของแกลเลอรี่พีเพิล สเปซในปัจจุบัน แท้จริงแล้วคือบ้านของคุณประภัสสรและคุณชุติมา เสวิกุล </span></p><p><span style="color:#666666;">ด้วยความอนุเคราะห์จากทั้งสอง ทำให้อาคารโบราณย่านแพร่งภูธรกลายเป็นพื้นที่เล็กๆ สำหรับ</span><span style="color:#666666;">แสดง</span><span style="color:#666666;">ภาพ</span><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;">และจัดกิจกรรมต่อเนื่องมาหลายปี พยายามทำหน้าที่เชื่อมโยงอดีตสู่คนรุ่นใหม่เท่าที่โอกาส</span><span style="color:#666666;">จะอำนวย </span></p><p><span style="color:#666666;">อย่างน้อยๆ กิจกรรมที่เราทำก็อาจช่วยพาใครหลายคนเข้ามาเยี่ยมเยือนย่านเก่าแก่ที่น่ารักแห่งนี้</span></p><p><span style="color:#666666;"></span> </p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;">กระนั้น สิ่งที่ PS ทำคงเทียบไม่ได้กับความรักที่ <span style="color:#339999;">อาจารย์ประทุมพร วัชรเสถียร</span> มีต่อย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ </span><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;">โดยเฉพาะแพร่งภูธรแห่งนี้ ครั้งแรกที่อาจารย์ได้มาที่ย่านนี้ มีแต่ความรู้สึกและความประทับใจติดตัวกลับไป </span><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;">แต่เมื่อมีโอกาสอีกครั้ง แพร่งภูธรได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งนวนิยายเรื่อง 'อยู่เย็น...เป็นสุข' </span></p><p><span style="color:#666666;">โดยอาคารที่ PS ตั้งอยู่นั้นเป็นหนึ่งในอาคารที่อาจารย์มีโอกาสได้เดินสำรวจอย่างทะลุปรุโปร่ง </span></p><p><span style="color:#666666;"></span> </p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;">อาจารย์ประทุมพรมาเยี่ยมเยียน PS สองครั้ง ครั้งแรกในกิจกรรมของชมรมหรี่เสียงกรุงเทพฯ </span><span style="color:#666666;">และครั้งที่สอง</span></p><p><span style="color:#666666;">ในงานเปิดนิทรรศการ "ชีวิตงามที่สามแพร่ง" ซึ่งอาจารย์ใจดีมาเล่าเรื่องเมืองเก่า</span><span style="color:#666666;">ให้เราฟังทั้งที่สุขภาพ</span></p><p><span style="color:#666666;">ยั</span><span style="color:#666666;">งไม่แข็งแรงนัก </span></p><p><span style="color:#666666;"></span> </p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;">ทุกครั้งเราจะได้เห็นดวงตาที่มีประกายแห่งความสุขเมื่อท่านพูดคุยถึงย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ </span></p><p><span style="color:#666666;">ถึงวันนี้แม้อาจารย์จะจากไปแล้ว แต่ประกายแห่งความสุขในดวงตานั้นจะอยู่ในใจเราตลอดไป</span></p><p> </p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p></p><p></p><p></p><p></p><p></p></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com8tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-5129603634208558912010-07-22T07:45:00.000-07:002010-07-22T09:46:08.765-07:00Bangkok Story + Conservation in Japan(-ese style)<div><div><div><div><div> </div><div>ภาพบรรยากาศ กิจกรรมเสวนา <span style="color:#993300;">“บางกอกสะตอรี่ส์ : มุมมองกรุงเทพฯ จากนักเขียนการ์ตูน 7 คน สนุกสนาน หวาน เศร้า เสียดสี สะท้อนความเป็นกรุงเทพฯ”</span> นำเสวนา โดย ศศิ วีระเศรษฐกุล, องอาจ ชัยชาญชีพ, สุทธิชาติ ศราภัยวานิช, ทรงวิทย์ สี่กิติกุล, ต้องการ, THE DUANG และ SUMMER </div><br /><div><br /></div><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 500px; CURSOR: hand; HEIGHT: 600px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm5.static.flickr.com/4101/4818690612_388c845c9b_b.jpg" border="0" /><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 500px; CURSOR: hand; HEIGHT: 600px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm5.static.flickr.com/4143/4818690832_92723354c2_b.jpg" border="0" /><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 500px; CURSOR: hand; HEIGHT: 600px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm5.static.flickr.com/4079/4818068399_36ab085f14_b.jpg" border="0" /><br /><br /><br />ภาพบรรยากาศ กิจกรรมเสวนา <span style="color:#993300;">อนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น “ตะวันตกที่สุดในตะวันออก"</span> นำเสวนา โดย อ.ดร.วิมลรัตน์ อิสระธรรมนูญ<br /><br /></div><div><div><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 500px; CURSOR: hand; HEIGHT: 600px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm5.static.flickr.com/4143/4818690338_f397520409_b.jpg" border="0" /><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 500px; CURSOR: hand; HEIGHT: 600px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm5.static.flickr.com/4100/4818067281_924dfa10cb_b.jpg" border="0" /><br /><span style="color:#339999;"></span></div><div><span style="color:#339999;"></span> </div><div><span style="color:#339999;">สำหรับผู้ที่สนใจแง่มุมการอนุรักษ์เมืองเก่าของญี่ปุ่น ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่</span> <a href="http://issuu.com/peoplespacebangkok/docs/conservation_in_japan_-ese_style_?mode=embed&layout=http%3A%2F%2Fskin.issuu.com%2Fv%2Flight%2Flayout.xml&showFlipBtn=true"><span style="color:#663333;">http://issuu.com/peoplespacebangkok/docs/conservation_in_japan_-ese_style_?mode=embed&layout=http%3A%2F%2Fskin.issuu.com%2Fv%2Flight%2Flayout.xml&showFlipBtn=true</span></a><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /></div><div></div></div></div></div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-11071481992065164822010-07-04T12:02:00.001-07:002010-07-07T07:23:16.796-07:00กิจกรรมพิเศษตลอดเดือนในงานนิทรรศการ "ชีวิตงามที่สามแพร่ง"<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiDrenuXUL78sU5j0GXM1DvCYUknvVWKIjavAHkGBt6spZvgvwQ6yc_ClRIjdJ3ivk6AMjXmnQpdOvOYkP0iPr3avyhMzWXvxMGICjkMkPQ62NxgTFr-bK-7D9DOoTQLV0Aljf8aOY7pMs/s1600/42_%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2_%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B9%8C.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5490131283325355298" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 463px; CURSOR: hand; HEIGHT: 166px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiDrenuXUL78sU5j0GXM1DvCYUknvVWKIjavAHkGBt6spZvgvwQ6yc_ClRIjdJ3ivk6AMjXmnQpdOvOYkP0iPr3avyhMzWXvxMGICjkMkPQ62NxgTFr-bK-7D9DOoTQLV0Aljf8aOY7pMs/s400/42_%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2_%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B9%8C.jpg" border="0" /></a><br /><div><br /><span style="color:#993300;">วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฏาคม 2553 : ของกินสามแพร่ง</span></div><span style="color:#990000;"></span><br /><div><br />17:00-18:00 น. กิจกรรมเสวนา “ของกินสามแพร่ง” ณ ลานภูธเรศ แพร่งภูธร </div><div>นำเสวนา โดย กลุ่มเยาวชนแพร่งภูธร </div><div><br />18:00-18:20 น. ฉายภาพยนตร์สารคดี “เครือข่ายอนุรักษ์เมืองเก่า” ณ ลานภูธเรศ แพร่งภูธร </div><div><br />18:30-20:30 น. ฉายภาพยนตร์ญี่ปุ่น เรื่อง “อุด้ง (UDON)” ณ ลานภูธเรศ แพร่งภูธร</div><br /><div><span style="color:#999999;">“หนังในดวงใจของใครหลายคนซึ่งรวมสารพัดอารมณ์ความรู้สึกผ่านความผูกพันกับความอร่อยของเส้นที่เหนียว หนาและนุ่มของอุด้ง ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น พระเอก นางเอก และคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ร่วมกันสร้างปาฏิหาริย์ “อุด้งบูม” ทำให้เมืองเล็ก ๆ ที่ทำท่าจะร้างนี้เกิดคึกคักและเป็นจุดหมายปลายทางความอร่อยของนักท่องเที่ยวทั้งประเทศ”</span> </div><div><br /><br /><span style="color:#993300;">วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฏาคม 2553 : บางกอกสะตอรี่ส์ & อนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น</span></div><br /><span style="color:#993300;"></span><div><br />13:00-15:00 น. กิจกรรมเสวนา “บางกอกสะตอรี่ส์ : มุมมองกรุงเทพฯ จากนักเขียนการ์ตูน 7 คน </div><div>สนุกสนาน หวาน เศร้า เสียดสี สะท้อนความเป็นกรุงเทพฯ” ณ People Space ชั้นบน<br />นำเสวนา โดย ศศิ วีระเศรษฐกุล, องอาจ ชัยชาญชีพ, สุทธิชาติ ศราภัยวานิช, ทรงวิทย์ สี่กิติกุล, ต้องการ, THE DUANG และ SUMMER </div><div><br />15:00-17:00 น. กิจกรรมเสวนา อนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น “ตะวันตกที่สุดในตะวันออก" </div><div>ณ People Space ชั้นบน นำเสวนา โดย อ.ดร.วิมลรัตน์ อิสระธรรมนูญ และ ผศ.ดร.ดวงใจ หล่อธนวณิชย์ </div><div><br /></div><div><br /><span style="color:#993300;">วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฏาคม 2553 : เบื้องหลังสารคดีเมล็ดพันธุ์ไท </span></div><div><span style="color:#993300;"></span></div><span style="color:#993300;"><div><br /></span></div>14:00-14:30 น. ฉายสารคดี เมล็ดพันธุ์ไท ตอน สามแพร่ง ณ People Space ชั้นบน <div><br />14:30-16:30 น. กิจกรรมเสวนา “เบื้องหลังสารคดีเมล็ดพันธุ์ไท” ณ People Space ชั้นบน<br />นำเสวนา โดย คุณนิสา คงศรี และทีมงานพิกโอนาย </div><div><br />16:30-17:00 น. ฉายสารคดี เมล็ดพันธุ์ไท ตอน ทรายกองดิน ณ People Space ชั้นบน</div><div></div><div><br /><br /><span style="color:#993300;">วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม 2553 : การท่องเที่ยวภาคประชาชน</span> </div><div></div><div><br />14:00-16:00 น. กิจกรรมเสวนา “การท่องเที่ยวภาคประชาชน : เข้าใจนิเวศวัฒนธรรม เข้าใจท้องถิ่น เข้าใจคน และเข้าใจชีวิต” ณ People Space ชั้นบน นำเสวนา โดย รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม </div><div></div><div></div><div></div><div></div><div></div><div></div><div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-1435496429746990412010-06-28T13:45:00.000-07:002010-06-28T13:57:08.560-07:00งานเปิดนิทรรศการ "ชีวิตงามที่สามแพร่ง"<div><div><div><div><br /><div> <span style="color:#999999;">งานเปิดนิทรรศการ "ชีวิตงามที่สามแพร่ง" ผ่านไปอย่างอบอุ่น ขอบคุณชาวชุมชนแพร่งภูธรที่ทำให้ทุกคนได้อุ่นท้องพร้อมกับอิ่มใจ และทำให้รู้ว่าวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่เรียบง่ายงดงามยังคงมีอยู่จริง :)</span><br /><br /><br /></div><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 450px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/opening4.jpg" border="0" /><br /><br /><div><span style="color:#999999;"></span></div><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 450px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/opening5.jpg" border="0" /><br /><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 446px; CURSOR: hand; HEIGHT: 446px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/opening7.jpg" border="0" /><br /><div><br /></div><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 446px; CURSOR: hand; HEIGHT: 446px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/opening6.jpg" border="0" /><br /><br /><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 450px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/opening2.jpg" border="0" /><br /><br /><br /><p><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 450px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/opening1.jpg" border="0" /><br /></p><br /><span style="color:#666666;">งานจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม อย่าลืมหาเวลามาชมกันนะคะ</span></div><div> </div><div><span style="color:#993399;">ป.ล. เราเปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่ 11 โมงถึง 1 ทุ่ม</span></div><div> </div><div><br /><br /> </div><div></div></div></div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-90257777510645782332010-06-21T06:46:00.000-07:002010-06-22T19:40:59.637-07:00Installation<div>ในวันอาทิตย์ที่แสนร้อนระอุ นักเรียนสถาปัตย์ฯ ลาดกระบัง เกือบ 30 ชีวิต รวมพลกันที่ PS เพื่อติดตั้งผลงานนิทรรศการ <span style="color:#993300;">"ชีวิตงามที่สามแพร่ง"</span> ภายใต้การดูแลของ อาจารย์กรินทร์ กลิ่นขจร<br /><br /><br /><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; DISPLAY: block; HEIGHT: 450px; CURSOR: hand" border="0" alt="" src="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/Installation1.jpg" /><br /><div></div><br /><div></div><br /><div>เวลาทั้งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว กว่าการติดตั้งจะเสร็จเรียบร้อยก็ล่วงไปถึงช่วงหัวค่ำ</div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; DISPLAY: block; HEIGHT: 450px; CURSOR: hand" border="0" alt="" src="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/Installation2.jpg" /><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; DISPLAY: block; HEIGHT: 450px; CURSOR: hand" border="0" alt="" src="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/Installation5.jpg" /><br /></div><div><br /><div></div><br /><div></div><div>ผลงานกว่า 200 ชิ้นถูกจัดแสดงในพื้นที่ขนาดกะทัดรัด จน PS ดูเล็กไปถนัดตา แต่การได้เดินละเลียดชมผลงานแต่ละชิ้น - อย่างช้าๆ - ดูราวกับว่าเรากำลังกลับไปสู่คืนวันเก่าๆ ของกรุงเทพฯ วันที่ชีวิตแบบเรียบง่ายยังมีให้เห็นได้ทั่วไป</div><br /><div></div><br /><div></div><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; DISPLAY: block; HEIGHT: 450px; CURSOR: hand" border="0" alt="" src="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/Life%20is%20Beautiful%20in%20Samphrang/Installation3.jpg" /><br /><div></div><br /><div></div><br /><div>แต่พูดไปคงไม่เหมือนมาเห็นเอง PS เลยอยากชวนทุกท่านร่วมหวนคืนสู่วันวานผ่านภาพของปัจจุบัน ในวันเปิดนิทรรศการ <span style="color:#ff6666;">"ชีวิตงามที่สามแพร่ง"</span> <span style="color:#993399;">อาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2553 ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป</span> มาถึงไวอาจแวะฝากท้องกับร้านในชุมชนแถวนี้ ที่พากันบ่นว่าบรรยากาศช่างเงียบเหงาเหลือเกิน </div><br /><div></div><br /><div></div><div>มาร่วมอุดหนุนชุมชน พร้อมชมงานศิลปะ</div><br /><div>นั่งล้อมวงฟัง <span style="color:#330099;">อาจารย์ประทุมพร วัชรเสถียร</span> เล่าเรื่องเมืองเก่า </div><br /><div>เปลี่ยนวันอาทิตย์เฉาๆ ให้เพลิดเพลินใจกันดีกว่า</div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div><em>For more information, please call 082-7855594 or email </em><a href="mailto:people.space@yahoo.com"><em>people.space@yahoo.com</em></a></div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div></div><br /><div></div></div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-77322655924885486582010-03-16T05:11:00.000-07:002010-06-07T08:41:04.629-07:00ชึวิตงามที่สามแพร่ง<a href="http://farm5.static.flickr.com/4047/4441517916_652ab72c8e_o.jpg"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 454px; CURSOR: hand; HEIGHT: 317px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm5.static.flickr.com/4047/4441517916_652ab72c8e_o.jpg" border="0" /></a><br /><div><br /></div><div><span style="color:#993300;"><span style="color:#993300;"><span style="color:#993300;"><span style="font-family:trebuchet ms;"><span style="color:#000000;"><span style="color:#993300;">สามแพร่ง</span> คือย่านประวัติศาสตร์มีชีวิตซึ่งผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่นมาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ และ ๖ ความเจริญทั้งทางด้านวัตถุ-สินค้า-บริการ-อาหาร-ความรู้สมัยใหม่ ผลักดันให้สามแพร่งเป็นย่านการค้าสมัยใหม่ใจกลางพระนครที่เจริญที่สุดของยุคนั้น</span></span></span></span></span></div><div><br /><span style="font-family:trebuchet ms;">หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ บริเวณรอบสามแพร่งกลายเป็นที่ตั้งหน่วยงานราชการสำคัญๆ ย่านนี้จึงมีร้านอาหารอร่อยนานาชนิดไว้บริการข้าราชการทั้งหลาย ส่งผลให้มีความคึกคักและมีผู้คนเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่เมื่อหน่วยงานของกระทรวงต่างๆ ที่อยู่โดยรอบเริ่มทยอยย้ายออกไปจากกรุงรัตนโกสินทร์ในภายหลัง ความคึกคักและรายได้ของห้างร้านในย่านสามแพร่งจึงลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ดี การรักษาเสน่ห์ความเป็นร้านอาหารที่สืบทอดความอร่อยแบบเดิม กับความเป็นร้านขายสินค้าและบริการเฉพาะทาง คือเหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้ร้านเหล่านี้ยังสามารถดำรงอยู่และปรับสมดุลสู่การทำมาหาเลี้ยงชีวิตอย่างพอเพียง</span></div><div><br /><span style="font-family:trebuchet ms;">ทุกวันนี้สามแพร่งยังคงเป็นแหล่งของกินรสเด็ด ทั้งร้านเก่าที่อยู่คู่ย่านมานานหลายชั่วอายุคนและร้านใหม่ที่เข้ามาเปิดร่วมอยู่ภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นอาหารเชลล์ชวนชิม เปิบพิสดาร ของหวานกินเล่น และของกินอีกมากมาย ซึ่งอาหารในปัจจุบันหลายจานก็สอดคล้องกับรายการอาหารที่มีขายในย่านนี้เมื่อร้อยปีที่แล้ว </span><br /></div><br /><div><br /><br /></div><div><span style="font-family:trebuchet ms;"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 450px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2692/4437333975_bb8f6a5994_o.jpg" border="0" /></span><br /></div><div><span style="font-family:trebuchet ms;"></span></div><div><span style="font-family:trebuchet ms;">ย่านประวัติศาสตร์มีชีวิตอันรุ่มรวยเสน่ห์แห่งนี้ แม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคมและวัฒนธรรม แต่ก็มีร่องรอยประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสและเรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่นท่ามกลางหมู่สถาปัตยกรรมอายุกว่าร้อยปี ถึงแม้จะมิใช่ของดั้งเดิมทุกสิ่งสรรพ์ แต่ก็รักษาของดั้งเดิมไว้ได้มาก นอกจากนี้ก็ยังมีความริเริ่มใหม่ๆ เข้ามาอยู่ร่วมเป็นเพื่อนบ้านกับชาวแพร่ง อาทิ บางกอกฟอรั่ม โรงแรมเดอะภูธร และพีเพิลสเปซ แกลเลอรี่อีกด้วย ความริเริ่มเหล่านี้สร้างสีสันใหม่ๆ และทำให้มีผู้คนใหม่ๆ เข้ามาเยี่ยมเยือนสามแพร่งมากขึ้น </span></div><div><br /></div><div><span style="font-family:Trebuchet MS;"></span></div><div><br /><br /></div><div><span style="font-family:trebuchet ms;"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 450px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2714/4437334315_f833dfcd42_o.jpg" border="0" /></span></div><div><br /><br /><span style="font-family:trebuchet ms;">นักศึกษาสถาปัตย์ ลาดกระบัง ปี ๑ & ปี ๕ ได้รับโอกาสอันอบอุ่นจากชุมชนสามแพร่งให้เข้ามาเยี่ยมเยือน สัมผัสชีวิตผู้คน วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรม เพื่อ<span style="color:#339999;">เรียนรู้สถาปัตยกรรมที่สัมพันธ์กับชีวิตและสภาพแวดล้อมผ่านแบบฝึกหัด “การวาดเส้นทางสถาปัตยกรรม” “โฟโตโม (การทำแบบจำลองจากภาพถ่าย)” และ “โฟโตเทรซ (การแกะรอยภาพถ่าย)”</span> ซึ่งฝึกการมองเห็นสิ่งทั้งหลายที่มีอยู่ตรงหน้า เรียนรู้ แล้วถ่ายทอดสิ่งที่เห็นออกมาให้ผู้คนเข้าใจได้ ผลงาน “ศิลปะ” ซึ่งแสดงให้เห็นความงามของชีวิตในชุมชนโดยนักศึกษาสถาปัตย์นี้จะนำมาจัดแสดงนิทรรศการในย่านสามแพร่งที่ “พีเพิลสเปซ แกลเลอรี่” ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน – 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553 และหวังว่าอาจจุดประกายให้เกิดมุมมองใหม่ๆ แก่ผู้เข้าชมนิทรรศการนี้ได้บ้าง</span></div><div><br /><br /></div><div><span style="font-family:trebuchet ms;"><br /></span></div><span style="font-family:trebuchet ms;"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 450px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2750/4438110430_784bc2a393_o.jpg" border="0" /><span style="color:#993300;"></span><br /><br />--------------------------------------------------------------------------------------------------------------<br /></span><br /><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;"><span style="color:#6666cc;"></span></span></div><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;"><span style="color:#6666cc;">การวาดเส้นทางสถาปัตยกรรม (Architectural Delineation)</span><br /></div></span><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;">การวาดเส้นทางสถาปัตยกรรมคือการเก็บข้อมูลและเรียนรู้ผ่านการเขียน ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานในการฝึกฝนสายตา สมอง และมือ เพื่อมองให้เห็นสิ่งที่ประทับใจแล้วเก็บด้วยความรู้สึก จดจำให้ได้ เรียนรู้ แล้วถ่ายทอดผ่านการเขียนออกไปให้ผู้คนเข้าใจ อย่างไรก็ดี ข้อมูลหรือผลงานภาพเขียนที่ได้นั้นเป็นเพียงผลผลิต หากสิ่งสำคัญคือกระบวนการที่เกิดขึ้น</span></div><br /><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;">การเขียนรูปทำให้ได้อย่างอื่นนอกเหนือจากการเขียนอีกมาก กระบวนการเขียนรูปเป็นการฝึกสมาธิ และสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งนอกเหนือจากสมาธิซึ่งจะต้องฝึกก็คือ การมองให้เห็นสิ่งที่จะเขียนก่อน ฝึกให้มองเห็นองค์ประกอบเชิงกราฟิกที่อยู่ในสภาพแวดล้อมแล้วเขียนออกมาเป็นภาพบนกระดาษ และในขณะที่เขียนนั้นก็จะเกิดการเชื่อมต่อของตา-สมอง-มือ เวลาที่เห็นแล้วเขียนออกมา ผู้เขียนก็จะได้สัดส่วนเหล่านั้นเข้าไว้ในตัวเหมือนกับการขีดเส้นความทรงจำเข้าไปในหัว การเขียนรูปจึงเท่ากับเป็นการ “เอาครูเข้าตัว” และเมื่อสมาธิทำงาน ผู้เขียนก็จะรู้สึกดิ่งลึกลงในภาพที่จะเขียน ในเส้นที่เขียน ซึ่งเป็นกระบวนการที่จุดประกายความรู้สึกสร้างสรรค์ การทำงานที่สร้างสรรค์ และได้ความรู้สึกในตอนนั้นว่ามีความสุขด้วย</span><br /></div><br /><br /><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;"></span></div><span style="font-family:trebuchet ms;"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 350px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm5.static.flickr.com/4045/4441157440_7a6ea868c4.jpg" border="0" /> </span><span style="font-family:trebuchet ms;"></span><br /><span style="font-family:trebuchet ms;">การพานักศึกษามาเขียนรูปที่สามแพร่ง คือหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้สถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าต่างๆ ซึ่งประสบพบอยู่ได้รอบตัว เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้เรื่องเมือง เรื่องชีวิตเมืองกับสถาปัตยกรรม และหวังว่าพวกเขาจะได้สัมผัสในสิ่งที่เขาไม่เคยสัมผัส กินของอร่อยที่ไม่เคยกิน มีประสบการณ์ มีความประทับใจในชีวิต แม้แต่ความประทับใจนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญ</span><br /><br /><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;">เพราะฉะนั้น สิ่งที่เน้นจริงๆ ในการเขียนรูปคือเริ่มจากการมองให้เห็น มองให้เห็นแล้วก็เขียน เขียนให้ได้ตามหลักการ เขียนให้ได้ตามวิธีการพื้นฐานที่ควรจะเป็น และมีกระบวนการสร้างภาพที่สามารถจะสื่อความหมายได้อย่างที่ผ่านความรู้สึกของตนออกไป หลังจากนั้นที่สำคัญที่สุดก็คือ “ต้องสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง” </span></div><br /><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;">การพานักศึกษาออกไปข้างนอกคือตัวอย่างของการสร้างแรงบันดาลใจในการเขียน เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น สัมผัสในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยสัมผัส แล้วก็เขียน</span></div><br /><br /><div><br /><br />-----------------------------------------------------------------------------------------------<br /></div><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;color:#993300;"></span></div><br /><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;"><span style="color:#6666cc;">โฟโตโม (Fotomo)</span><br /><br />โฟโตโม /โฟ-โต-โหมะ/ คือการทำแบบจำลองด้วยภาพถ่าย โดยนำเอาภาพถ่ายของฉากในโลกความจริงมาตัด จัดวาง และประกอบเข้าด้วยกันเป็นภาพตัดแปะสามมิติ โฟโตโมเป็นผลงานสร้างสรรค์ของ <span style="color:#339999;"><span style="color:#993399;">คิมิโอะ อิโตซากิ (Kimio Itozaki)</span> </span>นักถ่ายภาพชาวญี่ปุ่นผู้มีมุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ว่าด้วยชีวิตและศิลปะ</span></div><br /><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;">แม้ว่าการถ่ายภาพจะเป็นสื่อกลางที่บันทึกความจริงอย่างซื่อตรง ถ้าหากผู้ถ่ายภาพมีความซื่อตรงเพียงพอ แต่มันก็ทำในแบบสองมิติเท่านั้น </span></div><br /><span style="font-family:trebuchet ms;"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 450px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2748/4441157324_54c934bdfd_o.jpg" border="0" /><br /></span><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;">ในอีกด้านหนึ่ง แบบจำลองสามมิติโดยทั่วไปก็มักจะขาดความสมจริงและรายละเอียดที่ยิบย่อยลงไปของภาพถ่าย ดังนั้น จากชื่อของมันที่บ่งบอก (Fotomo = Foto + Model) โฟโตโมก็คือเทคนิควิธีอย่างหนึ่งซึ่งควบรวมเอาความสมจริงของการถ่ายภาพกับการมีตัวตนอยู่จริงทางกายภาพของแบบจำลองสามมิติเข้าไว้ด้วยกัน</span></div><br /><br /><div><span style="font-family:trebuchet ms;">เวลาที่มองโฟโตโม สิ่งแปลกๆ ก็จะเกิดขึ้นในสมอง ความจริงแบบสามมิติแท้ๆ ของแบบจำลองกับเนื้อที่สามมิติเสมือนจริงของภาพถ่าย จะผสานเข้าด้วยกันเพื่อให้ประสบการณ์สามมิติซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะ ทัศนียภาพในตัวภาพถ่ายจะสื่อถึงความรู้สึกของความลึกภายในเนื้อที่อันจำกัดนั้น และเนื่องจากว่าโฟโตโมเป็นวัตถุสามมิติจริงๆ ซึ่งสามารถจะมองได้จากหลากแง่มุม มันจึงมีความสมจริงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะให้ผู้มองรู้สึกเหมือนกับว่า <span style="color:#ff6666;">“ได้ไปอยู่ที่นั่นจริงๆ”</span></span></div><br /><span style="font-family:trebuchet ms;">การทำโฟโตโมมักจะเลือกสิ่งธรรมดาทั่วไปที่ใครๆ ก็เดินผ่านเป็นหัวข้ออยู่เสมอ ดังเช่นฉากท้องถนนและอาคารสิ่งปลูกสร้างที่พบเห็นกันทั่วไป ตลอดจนวัตถุทั้งหลายในชีวิตประจำวัน และจะไม่เลือกอาคารที่มีชื่อเสียงหรือสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นหัวข้อ เนื่องจากว่าต้องการจะแสดงออกถึงคุณค่าทางสุนทรียะภายในของสิ่งที่มีอยู่เป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน นั่นคือเหตุว่าทำไมการทำโฟโตโมถึงให้ความสนอกสนใจมากกว่าในสิ่งธรรมดาทั่วไป หรือ “ท้องถนน” ซึ่งใครๆ ก็เดินผ่าน และหลายคนอาจมองว่ามันช่างธรรมดาๆ ซึ่งก็แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับ “ความโหยหา” ที่คนทั่วไปมักนึกถึง<br /><br />นักศึกษาสถาปัตย์ ลาดกระบัง ชั้นปีที่ ๕ เริ่มทำแบบฝึกหัดโฟโตโมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙ และครั้งที่สองในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยเลือกทำโฟโตโมของย่านไหนก็ได้ตามความสนใจของตน สำหรับการทำโฟโตโมครั้งที่สามในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ นี้เป็นครั้งแรกที่ทดลองทำโฟโตโมในย่านเดียวกันคือสามแพร่ง การนำโฟโตโมมาเป็นแบบฝึกหัดสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ ๕ นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ผ่านการสัมผัสชีวิตผู้คนและสถาปัตยกรรมในย่านต่างๆ ร่วมกันเป็นทีม ฝึกสังเกตชีวิตประจำวันผ่านภาพรวมและรายละเอียดทั้งหลายที่มีอยู่ตามท้องถนนทั่วไป ฝึกมองให้เห็นสิ่งที่มีอยู่ต่อหน้าต่อตาซึ่งอาจจะคิดไปเองล่วงหน้าว่าเห็นแล้วหรือรู้แล้ว ฝึกมองให้เห็นความสร้างสรรค์ของผู้คนในชีวิตประจำวัน เก็บข้อมูล เรียนรู้และถ่ายทอดออกมาให้ผู้คนเข้าใจได้<br /><br /><span style="color:#993300;"></span><br /><span style="color:#993300;"></span>----------------------------------------------------------------------------------------------------------------<br /><span style="color:#993300;"></span><br /><span style="color:#993300;"></span></span><br /><span style="font-family:trebuchet ms;"><span style="color:#6666cc;">โฟโตเทรซ (Fototrace)</span><br /><br />โฟโตเทรซ คือการแกะรอยภาพถ่ายที่บันทึกความสนใจหรือความประทับใจของผู้ถ่ายภาพระหว่างการสัมผัสชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนในย่านต่างๆ โดยเริ่มจากนำกระดาษไขทาบลงบนภาพถ่ายต้นฉบับที่เลือกมาแล้วติดเทปไม่ให้เลื่อนออกจากกัน จากนั้นจึงใช้ปากกาตัดเส้นสีดำลากไปตามความต่อเนื่องและความแตกต่างของรูปร่าง แสงเงา และลวดลายที่มีอยู่ในภาพถ่ายนั้นทั้งหมด โดยปราศจากการซอยเส้นลงน้ำหนักอ่อนแก่และไม่ถมดำ เพื่อถ่ายทอดสิ่งที่เห็นออกมาให้ผู้อื่นรับรู้ได้จนถึงที่สุด<br /><br /><br /></span><p><span style="font-family:trebuchet ms;">การเขียนทำให้เราค้นพบสิ่งใหม่ๆ ได้โดยผ่านการมองเห็น ไม่ว่าจะผ่านประสบการณ์การเห็นและการสังเกตของตนเอง หรือผ่านการบันทึกด้วยการเขียนจากประสบการณ์ผู้อื่นก็ตาม หลังจากเขียนรูปเสร็จแล้วนักศึกษาจะได้พิจารณากระบวนการตั้งแต่การถ่ายภาพระหว่างการลงพื้นที่จนเขียนรูปเสร็จโดยตลอดว่าเห็นอะไรบ้าง จากนั้นจึงเขียนคำบรรยายประกอบภาพเพื่อเรียนรู้และสร้างสมดุลระหว่างการเขียนรูปกับการเขียนหนังสือให้เป็นเนื้อเดียวกัน ตลอดจนถ่ายทอดให้ผู้อื่นเห็นตามได้ว่าผู้แกะรอยนั้นเห็นอะไรบ้าง</span> </p><br /><p><br /></p><br /><p><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 350px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2771/4440417483_b11471d352_o.jpg" border="0" /><span style="font-family:trebuchet ms;"></span></p><br /><p><span style="font-family:trebuchet ms;"></span></p><br /><p><span style="font-family:trebuchet ms;"></span></p><br /><p><span style="font-family:trebuchet ms;">นี้คือกระบวนการที่พยายามจะส่งเสริมให้นักศึกษาเห็น คิด พูด และทำตรงกัน โดยไม่ขัดแย้งกันเอง “เห็นอะไรคิดอย่างนั้น คิดอะไรพูดอย่างนั้น พูดอะไรทำอย่างนั้น” ซึ่งมีความดีงามอยู่ในตัว สำหรับนักศึกษาสถาปัตย์ที่ถูกอบรมบ่มเพาะมาให้สนใจในสถาปัตยกรรมและสิ่งปลูกสร้างเป็นหลัก และให้ความสนใจกับผู้คนและสรรพชีวิตแต่น้อยแล้ว สายตาที่มองเห็นชีวิตธรรมดาๆ แบบคนทั่วไปนั้นอาจจะพร่าเลือนหรือจางหายไป </span><br /><br /><span style="font-family:trebuchet ms;">โฟโตเทรซจึงพยายามที่จะ “ปลุก” “ฟื้นคืน” หรือ “เปิดมุมมอง” ให้สายตาของนักศึกษาสถาปัตย์ ชั้นปีที่ ๕ กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง คืนความมีชีวิตชีวาให้กับสายตาของนักศึกษาสถาปัตย์มองเห็นสิ่งทั้งหลายที่อยู่ต่อหน้าต่อตาของตนเอง เห็นชีวิตที่มีอยู่และดำรงอยู่ในปัจจุบัน</span> </p><br /><span style="font-family:trebuchet ms;">สำหรับการจัดนิทรรศการครั้งนี้ ผลงานโฟโตเทรซของนักศึกษา ๕ ชิ้น ยังได้รับความเอื้อเฟื้อเป็นพิเศษในการลงสีโดยศิลปินรับเชิญ <span style="color:#993399;">ทรงวิทย์ สี่กิติกุล</span> ผู้เขียนหนังสือ “โลกของเรา” และ “ที่นี่มีชีวิต” อีกด้วย<br /><br /></span><span style="font-family:trebuchet ms;">เวลาที่เราเห็นว่าสิ่งใดมีชีวิต มีความรู้สึก เราก็จะปฏิบัติต่อสิ่งนั้นอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเราเห็นว่าสิ่งใดไม่มีชีวิต เราก็จะปฏิบัติต่อสิ่งนั้นอีกอย่างหนึ่ง ในการประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมนั้นสถาปนิกไม่ได้สร้างงานศิลปะเพื่อตนเอง หรือศิลปะเพื่อศิลปะ ทว่าออกแบบและสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างหรือสถาปัตยกรรมเพื่อผู้คนและชีวิต </span><br /><br /><p></p><br /><br /><br /><p><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 700px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm5.static.flickr.com/4054/4441193836_bdbbd981f6_o.jpg" border="0" /><span style="font-family:trebuchet ms;"></span></p><br /><p><span style="font-family:trebuchet ms;"></span></p><br /><p><span style="font-family:trebuchet ms;"></span></p><br /><p><span style="font-family:trebuchet ms;"></span></p><p><span style="font-family:trebuchet ms;">ด้วยเหตุนี้ สถาปนิกจึงจำเป็นที่จะต้องสัมผัส มองให้เห็นถึงสิ่งที่มีอยู่ดำรงอยู่ โดยเฉพาะชีวิตที่ดำรงอยู่ในสถาปัตยกรรมและสภาพแวดล้อมที่สถาปนิกจะออกแบบ เปิดตาเปิดใจให้มองเห็นชีวิต เอาใจใส่ อ่อนไหวและอ่อนโยนต่อชีวิต เห็นคุณค่าและความงามของชีวิตที่มีอยู่ดำรงอยู่ต่อหน้าต่อตาของตน มิเช่นนั้นแล้ว การทำงานของสถาปนิกก็คงจะเปี่ยมไปด้วยความรุนแรงและไม่ต่างจากอาชญากรรมสักเท่าใดนัก ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม </span><br /></p><br /><br /><br /><br /><p><span style="font-family:trebuchet ms;">--------------------------------------------------------------------------------------------------------------</span></p><br /><p><span style="font-family:trebuchet ms;font-size:180%;color:#660000;"></span></p><br /><p><span style="font-family:trebuchet ms;font-size:180%;color:#660000;">ชีวิตงามที่สามแพร่ง</span></p><br /><p><span style="font-family:trebuchet ms;color:#333333;">จัดแสดงระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน ถึง 1 สิงหาคม 2553</span></p><p><span style="font-family:trebuchet ms;color:#339999;">งานเปิดนิทรรศการ วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2553 เวลา 5 โมงเย็นเป็นต้นไป</span></p><p><span style="font-family:trebuchet ms;color:#006600;"></span></p><p><span style="font-family:trebuchet ms;color:#006600;">แกลเลอรีเปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ 11 โมงถึง 1 ทุ่ม</span></p><br /><br /><p><span style="color:#999999;"><span style="font-family:trebuchet ms;color:#663333;">ข้อมูลเพิ่มเติม โทร 082-7855594</span></span></p><p><span style="color:#999999;"><span style="color:#663333;"><span style="font-family:trebuchet ms;">Email: </span><a href="mailto:people.space@yahoo.com"><span style="font-family:trebuchet ms;">people.space@yahoo.com</span></a><span style="font-family:trebuchet ms;"> หรือ </span><a href="mailto:peoplespace.bangkok@gmail.com"><span style="font-family:trebuchet ms;">peoplespace.bangkok@gmail.com</span></a></span></span></p><br /><p><span style="font-family:trebuchet ms;color:#666666;">p.s. ติดตามกิจกรรมอันหลากหลายเร็วๆ นี้</span></p><br /><p></p><br /><p></p><br /><p></p><br /><p></p><br /><p></p><br /><p></p><br /><p></p>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-27105467252503915042010-03-06T07:15:00.000-08:002010-03-06T07:31:34.693-08:00Paris l'Endroit et l'Envers : Paris Verse / Reversed<a href="http://farm5.static.flickr.com/4014/4410478769_cd342cd8b8_o.jpg"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 443px; CURSOR: hand; HEIGHT: 313px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm5.static.flickr.com/4014/4410478769_cd342cd8b8_o.jpg" border="0" /></a><br /><br />People Space อยากชวนทุกๆ คนไปชมงานนิทรรศการ <span style="color:#990000;">Paris l'Endroit et l'Envers : Paris Verse / Reversed</span> ของคุณ<span style="color:#000099;">ศุภชัย เกศการุณกุล </span><span style="color:#333333;">กันค่ะ</span><br /><br /><div><div><p><span style="color:#333333;">งานนี้จัดระหว่างวันที่ 18/10/2010 ถึง 25/04/2010 ที่สมาคมฝรั่งเศส ถนนสาทร</span></p><p><span style="color:#333333;">งานเปิดนิทรรศการวันที่ 18 มีนาคม 2010 เวลา 6 โมงเย็น </span></p><p>หากใครสนใจ ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ <a href="http://www.momoest.com/" target="_blank" rel="nofollow">http://www.momoest.com/</a> </p><p>ขอให้ชมนิทรรศการอย่างเพลิดเพลินค่ะ :)</p><p></p><p>P.S. เตรียมพบกับนิทรรศการใหม่ที่ People Space ในเดือนเมษายนนี้ค่ะ (แล้วจะมาบอกข่าวเร็วๆ นี้นะคะ)</p><br /><br /><p><span style="color:#333333;"></span></p></div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-55615439291428022402010-02-11T02:58:00.000-08:002010-02-11T03:04:46.525-08:00รำลึก...กนกพงศ์ สงสมพันธุ์<a href="http://farm5.static.flickr.com/4053/4347884417_0a914bf2cf.jpg"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 347px; CURSOR: hand; HEIGHT: 500px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm5.static.flickr.com/4053/4347884417_0a914bf2cf.jpg" border="0" /></a><br /><div>PS Gallery ขอเชิญเพื่อนผองน้องพี่ ร่วมงานเสวนารำลึกถึง <strong>กนกพงศ์ สงสมพันธุ์</strong></div><br /><div>ในวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2553 ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป</div><br /><div></div><br /><div><span style="color:#000066;">มาร่วมวงเสวนาแบบสบายๆ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ</span></div><br /><div></div><br /><div><span style="font-size:130%;color:#339999;">- คนหนุ่มสาวอ่านอะไร</span> </div><br /><div> โดย สิทธิเดช โรหิตะสุข อาจารย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ </div><br /><div> ธิติ มีแต้ม บ.ก.ปาจารยสาร </div><br /><div> แก้วตา ธัมอิน เจ้าหน้าที่ biothai </div><br /><div> ดำเนินรายการโดย คุณวัตร ไพรภัทรกุล </div><br /><div></div><br /><div><span style="font-size:130%;color:#339999;">- บทวิเคราะห์ศึกษาผลงาน กนกพงศ์ สงสมพันธุ์</span></div><br /><div> โดย อ.สกุล บุณยทัต มหาวิทยาลัยศิลปากร </div><br /><div></div><br /><div><span style="font-size:130%;color:#339999;">- บทบาทกวีบนพื้นที่ทางการเมือง</span></div><br /><div> โดย วาด รวี และ ไม้หนึ่ง ก.กุนที</div><br /><div></div><br /><div><span style="color:#cc6600;">PS ชวนร่วมวงเสวนาช่วงต้นปี ก่อนจะพบกับนิทรรศการครั้งใหม่เร็วๆ นี้ค่ะ</span></div><div><span style="color:#cc6600;"></span> </div><div><span style="color:#cc6600;"></span> </div><div> </div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-54849364573444642332009-09-17T22:28:00.000-07:002009-09-17T22:52:00.580-07:00<p><span style="color:#996633;"><span style="font-size:130%;">สายลมพลิ้วผ่านต้นจำปา </span><span style="font-size:130%;">ในดวงตาของชัยพงษ์ กิตตินราดร</span></span></p><p><span style="font-size:130%;color:#660000;"></span></p><p><span style="font-size:130%;color:#660000;"></span></p><p><span style="font-size:130%;color:#660000;"></span></p><p><span style="font-size:130%;color:#660000;"></span></p><p>นี่เป็นอีกคืนหนึ่งที่ผมรู้สึกใจหาย ใจหายเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างหายไปจากชีวิต ไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่ทราบข่าวว่า คุณ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ เสียชีวิต<br /></p><p>ผมแวะเข้าไปจัดการงานเล็กน้อยที่บ้านสีฟ้า สำนักงานของ openbooks ในช่วงบ่าย ตกเย็นชวน วรพจน์ พันธุ์พงศ์ ให้ขึ้นรถมากินข้าวด้วยกันที่ PS Gallery แพร่งภูธร เพราะมีนัดกับนักเขียนรุ่นใหม่หลายคนที่มีผลงานอยู่ใน www.onopen.com รถติดเล็กน้อยตอนที่เรากำลังจะออกเดินทาง เราเปรยถึงคุณชัยพงษ์ กิตตินราดร ช่างภาพขาว-ดำ ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี </p>คุณชัยพงษ์ล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว อาการของโรคลุกลามไปอย่างรวดเร็ว จนคุณชัยพงษ์ทรุดหนัก ผมแวะไปเยี่ยมคุณชัยพงษ์เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน แม้อาการภายนอกจะบ่งบอกถึงการเสื่อมโทรมลงไปของสังขาร แต่จากสภาวะจิตภายใน คุณชัยพงษ์ยังคงเข้มแข็งและพูดจาตอบโต้กับพวกเรา อันหมายรวมถึงเต้-ธวัชชัย พัฒนาภรณ์ และคุณปุ๋ยแห่ง bwfoto.net ได้เป็นอย่างดี<br /><br />เราคุยกันถึงการนำเอางานภาพถ่ายขาว-ดำ ในส่วนที่ยังไม่เคยมีการจัดแสดงของคุณชัยพงษ์ มารวมเล่มตีพิมพ์ คุณปุ๋ยและเต้กรุณารวบรวมต้นฉบับทั้งหมดมาให้คุณชัยพงษ์ได้เลือกคัด คุณชัยพงษ์เองก็ยังมีสติดีพอที่จะคัดส่วนที่คิดว่าไม่เป็นเอกภาพออกไป และฝากฝังให้ผมช่วยเขียนคำนำในหนังสือให้ด้วย<br /><br />“เขียนอะไรก็ได้ ตามใจคุณภิญโญ จะเขียนถึงเรื่องความป่วยไข้ หรือความตายของผมก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจ ใช้ผมเป็นกรณีศึกษาได้” คุณชัยพงษ์บอกผมด้วยน้ำเสียงอิดโรย ด้วยช่วงนั้นระบบการทำงานของตับและไตค่อนข้างจะมีปัญหาหนัก ขาคุณชัยพงษ์จึงบวม ร่างกายซีดเหลืองและซูบลงไปจากเดิมเป็นอันมาก<br />“พี่จะรีบไปไหน หนังสือยังไม่เสร็จห้ามตายนะพี่ ผมในฐานะบรรณาธิการยังไม่อนุญาตให้พี่ตาย” ผมแกล้งหยอกเย้ากับคุณชัยพงษ์แรงๆ ซึ่งก็ช่วยทำให้คุณชัยพงษ์หัวเราะออกมาได้เบาๆ ผมจึงกระเซ้าต่อว่า<br />“อยู่ช่วยขายหนังสือให้ผมก่อนนะพี่”<br />คุณชัยพงษ์ไม่ได้รับปาก เพียงแต่บอกว่า<br />“ผมอ่อนแรงเต็มที อาการตอนนี้อยู่ในขั้นตรีทูตแล้ว”<br />“พี่ต้องมาเปิดงานแสดงภาพถ่ายให้ผมก่อน ถ้าเดินไม่ไหวจะให้โฟนอินมาเหมือนคุณทักษิณ”<br />คุณชัยพงษ์ซึ่งเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตัวยงหัวเราะเบาๆ กับตลกร้ายของผม<br /><br />ทั้งหมดนี้ คือบทสนทนาครั้งสุดท้ายระหว่างคุณชัยพงษ์กับผม เพราะบ่ายวันนี้ ในเวลาใกล้เคียงกับที่เราออกเดินทางจากสำนักงานมาที่แกลเลอรี่และกำลังคุยถึงพี่ชัยพงษ์ พี่ชัยพงษ์ก็สิ้นลมอย่างสงบ<br /><br /><p align="center"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 435px; CURSOR: hand; HEIGHT: 295px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3526/3930893238_b5dc5ae4db.jpg" border="0" /></p><p><br />กว่าผมจะทราบข่าวก็ช่วงค่ำ เมื่อเต้โทรศัพท์มาแจ้ง ผมรู้สึกใจหายเหมือนดังที่เล่าไว้ในเบื้องต้น ผมหยิบหนังสือ <em>Mind’s Eye</em> ที่วางอยู่ในแกลเลอรี่มาให้ทุกคนดู บางคนที่ยังไม่เคยเห็นภาพของคุณชัยพงษ์มาก่อน เอ่ยปากชมว่าภาพสวยมาก<br /><br />ผมเพิ่งนึกได้ว่าหยิบหนังสือเล่มนี้ห่อใหญ่ฝากวรพจน์ช่วยถือขึ้นรถมาเมื่อตอนบ่ายนี้เอง หนังสือ <em>Mind’s Eye</em> ที่แกลเลอรี่เหลือน้อย แต่ผมก็ยังไม่เคยหยิบมาเติมเสียที จนกระทั่งวันนี้ ทั้งๆ ที่มีหนังสืออื่นเต็มกระเป๋า แต่ผมก็ตั้งใจว่า จะหยิบหนังสือของพี่ชัยพงษ์มาที่แกลเลอรี่<br /><br />หรือพี่ชัยพงษ์จะส่งข่าวบางอย่างมาถึงผม ถึงตอนนี้ ผมเองก็อดไม่ได้ที่จะคิดเช่นนั้น<br /><br />ผมรู้จักพี่ชัยพงษ์ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่คิดว่าจะพิมพ์รวมเล่มหนังสือ <em>พุทธบูรณา (พุทธทาสฉบับท่าพระจันทร์) </em>ของอาจารย์สุวินัย ภรณวลัย ผมถามเต้-ธวัชชัย ว่ารู้จักช่างภาพขาว-ดำฝีมือดีที่สนใจงานทางด้านศาสนาบ้างไหม ไม่กี่วันต่อมาเต้ก็แนะนำให้ผมรู้จักกับพี่ชัยพงษ์<br /><br />วันนั้น พี่ชัยพงษ์ขับรถมาเยี่ยมบ้านสีฟ้า พร้อมภาพถ่ายกล่องใหญ่ ผมดูภาพแล้วก็ตัดสินใจโดยไม่ต้องลังเลเลยว่า งานนี้คงต้องอาศัยประสบการณ์และสายสัมพันธ์ของพี่ชัยพงษ์เป็นแน่แท้ เพราะหนังสือเล่มนี้เป็นการเรียบเรียงชีวประวัติท่านอาจารย์พุทธทาสขึ้นมาใหม่ในรูปแบบกึ่งนวนิยาย ภาพถ่ายทั้งหลาย จึงมิใช่ภาพประกอบตรงไปตรง หากแต่ต้องอาศัยการตีความของช่างภาพ ซึ่งช่างภาพที่จะถ่ายงานในลักษณะนี้ได้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเคยผ่านสวนโมกข์มาแล้ว ไม่ว่ารูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งก็ให้พอดีที่พี่ชัยพงษ์เป็นช่างภาพผู้นั้น<br /><br />ผู้ซึ่งสนใจทั้งภาพ สนใจทั้งธรรม และมีความดื่มด่ำกับสวนโมกข์<br /><br />พี่ชัยพงษ์หายตัวไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพราะต้องเดินทางลงใต้ ครั้นถึงกำหนดนัดหมาย พี่ชัยพงษ์กลับมาพร้อมภาพถ่ายขาว-ดำกล่องใหญ่ และนั่นได้กลายเป็นภาพประกอบที่สวยงามในหนังสือ <em>พุทธบูรณา</em> ซึ่งช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับหนังสือเป็นอย่างยิ่ง ภาพบางภาพ เช่นห้องนอนของท่านอาจารย์พุทธทาส ห้องหนังสือ ถ้าไม่ได้รู้จักกับพระคุณเจ้าทั้งหลายที่ดูแลสวนโมกข์อยู่ทุกวันนี้ ก็คงเป็นการยากเต็มทีที่จะได้เข้าไปถ่าย บางภาพคุณชัยพงษ์ต้องยอมตื่นแต่เช้ามืด เพื่อเก็บภาพพระในสวนโมกข์ตื่นขึ้นมาเดิมจงกลม ผมเองไม่ใช่ช่างภาพ แต่ก็เข้าใจว่า โดยทางเทคนิคแล้วคงยากเอาการอยู่ เพราะในยามเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเช่นนั้น ไหนเลยจะมีแสงธรรมชาติให้ถ่ายภาพได้ ลำพังแสงจากหลอดไฟไม่กี่แรงเทียน แค่มือสั่นนิดเดียว ภาพก็ไหวเสียแล้ว แต่พี่ชัยพงษ์ก็สามารถถ่ายภาพดังกล่าวออกมาได้อย่างน่าดูชม<br /><br />นี่คือสปิริตที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังภาพถ่ายของพี่ชัยพงษ์<br /><br />หนังสือ<em>พุทธบูรณา</em>ทำให้พี่ชัยพงษ์มีโอกาสได้ขึ้นเวทีเดียวกับอาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล อาจารย์สุวินัย ภรณวลัย ที่ห้องประชุมใหม่เอี่ยมบนตึกโดม ท่าพระจันทร์ แม้จะไม่เคยเอ่ยปากบอกกันตรงๆ แต่ผมเชื่อว่า ในฐานะศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ พี่ชัยพงษ์น่าจะมีความภูมิใจอยู่ไม่น้อย ที่ได้กลับมารับใช้สถาบันเก่าของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร่วมกับนักคิดชั้นนำที่ตนเองนับถือ<br /><br />รายการเสวนาวันนั้นสนุกครับ อาจารย์เสกสรรอยู่ในภาวะถอดหมวกออกเสียแล้ว วงสนทนาจึงไม่เครียด หากเต็มไปด้วยความลุ่มลึกและอารมณ์ขัน ผมเองได้ร่วมทำหน้าที่ซักถามอยู่บนเวทีวันนั้น ได้เห็นสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสของทุกคนแล้ว บอกได้คำเดียวว่าสุขใจ<br /><br />จากการได้ร่วมงานกันในครั้งนั้น พี่ชัยพงษ์กับผมก็คบหากันเรื่อยมา ทั้งในฐานะพี่น้องและเพื่อนร่วมงาน(ต่างวัย) เมื่อเราริเริ่มจะเปิดแกลเลอรี่ที่แพร่งภูธร พี่ชัยพงษ์จึงกลายเป็นช่างภาพคนแรกที่ได้รับเชิญให้มาแสดงงาน ด้วยความเห็นพ้องต้องกันของทุกฝ่าย<br /><br />กิจการแกลเลอรี่ขนาดเล็กของพวกเราในช่วงเริ่มต้นค่อนข้างขรุขระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านงบประมาณ และก็เป็นพี่ชัยพงษ์นี่เองที่คอยให้กำลังใจและช่วยเหลือ ถึงขนาดที่ว่า ขนทั้งเครื่องปรับอากาศและช่างมาติดตั้งแอร์ตัวใหญ่ให้ถึงที่ หลังจากพบว่าแกลเลอรี่แห่งนี้ช่างร้อนเหลือเกิน<br /><br />น้ำใจจากพี่ชัยพงษ์ทำให้ชั้นสองเปลี่ยนจากห้องซาวน่ากลายมาเป็นห้องที่เย็นฉ่ำ เป็นสถานที่ที่เราสามารถใช้จัดกิจกรรม ทั้งเสวนา เล่นดนตรี ฉายภาพยนตร์ มาได้ด้วยดี โดยที่ผู้ฟังอาจไม่เคยรู้เลยว่า อากาศที่เย็นสบายนั้น มีชายชื่อ <span style="color:#993300;">ชัยพงษ์ กิตตินราดร</span> อยู่เบื้องหลัง<br /><br />และก็ด้วยงานแสดงนี้เอง ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสกลับมาร่วมงานกับพี่ชัยพงษ์อีกครั้ง ในโครงการหนังสือ <em>Mind’s Eye</em> ซึ่งเป็นการตีพิมพ์ภาพถ่ายขาว-ดำลงสีด้วยมือเป็นเล่ม (ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกๆ ของประเทศไทย) งานนี้เป็นงานใหญ่ ใช้เวลามาก ใช้ความละเอียดค่อนข้างสูง พี่ชัยพงษ์และผม จึงต้องพบกันบ่อยๆ ในช่วงสองสามเดือนที่เราจัดเตรียมต้นฉบับหนังสือเล่มนี้<br /><br /><br />คนที่รู้จักพี่ชัยพงษ์ดี คงจะรู้ว่าพี่ชัยพงษ์เป็นคนละเอียด การทำงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนละเอียดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พี่ชัยพงษ์ก็ยอมอะลุ้มอล่วยกับข้อจำกัดของธุรกิจและเทคโนโลยี จนทำให้เราผ่านงานนี้มาได้ด้วยความสบายใจกันทุกฝ่าย<br /><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 452px; CURSOR: hand; HEIGHT: 313px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2623/3930894120_817702ac90.jpg" border="0" /><br /><br />เมื่อแล้วเสร็จ หนังสือ <em>Mind’s Eye</em> ได้รับคำชมและเสียงตอบรับที่ดีมากในวงการและในวงกว้าง<br />หนังสือเล่มนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นหนังสือที่สวยที่สุดที่สำนักพิมพ์ openbooks เคยตีพิมพ์มา<br />เป็นหนังสือที่เมื่อสำเร็จออกมาแล้ว ก็พูดได้อย่างเต็มปากว่า สร้างความภูมิใจให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง<br /><br />และนี่เองที่ทำให้ผมได้สัมภาษณ์พี่ชัยพงษ์เพื่อตีพิมพ์ในนิตยสาร Image อีกครั้ง<br />เป็นสัมภาษณ์ใหญ่ความยาวสิบกว่าหน้า ลงทั้งภาพเหมือนพี่ชัยพงษ์ และภาพที่พี่ชัยพงษ์ได้เคยถ่ายเอาไว้<br />ไม่ง่ายนะครับ ที่คนธรรมดาไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังในวงสังคม จะได้พื้นที่สัมภาษณ์ใหญ่ในนิตยสารผู้หญิงกระแสหลักเช่นนี้ แต่พี่ชัยพงษ์ก็สามารถสร้างพื้นที่ให้ตัวเองได้ จากสิ่งที่ตัวเองรัก นั่นก็คือการถ่ายภาพ<br /><br />งานแสดงภาพถ่ายของพี่ชัยพงษ์ผ่านไปได้ด้วยดี ญาติมิตรและลูกศิษย์มากันล้นหลาม จนต้องมีการฉายสไลด์ประกอบดนตรีกันถึงสองสามรอบกว่าทุกคนจะได้ชมกันครบ เราขายหนังสือไปได้เกือบร้อยเล่มในงานเดียว<br /><br />นี่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะครับ เพราะหนังสือเล่มนี้มีราคาสูงถึง 1,200 บาท ต่อให้ลดแล้วเหลือ 700 บาท แต่ถ้าไม่สนใจจริงหรือไม่รักกันจริง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีคนยอมควักเงินเพื่อซื้อหนังสือภาพถ่ายหนึ่งเล่มในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้<br /><br />แต่พี่ชัยพงษ์ก็ทำได้ เพราะคนที่มางานนี้ ถ้าไม่เคารพในฝีมือ ก็ล้วนแล้วแต่รักในตัวพี่ชัยพงษ์ทั้งสิ้น<br />ผมเองจัดอยู่ในทั้งสองประเภท คือ ทั้งเคารพและรัก<br /><br />ในฐานะคนทำงาน ผมเคารพในความมุ่งมั่น หมั่นแสวงหาความรู้ และกล้าลองผิดลองถูก โดยไม่ยึดติดตำราหรือทฤษฎีด้านการถ่ายภาพ จนก่อให้เกิดเป็นแนวทางของตนเองที่ชัดเจน ทั้งๆ ที่ไม่เคยผ่านการศึกษาด้านจากสถาบันใดๆ มาก่อน นี่คือแบบอย่างของการทำงานที่ดี ซึ่งไม่ได้หยุดอยู่ที่งานถ่ายภาพเท่านั้น<br />หากแต่ยังหมายรวมถึงงานศิลปะทุกแขนง<br /><br />ในฐานะมนุษย์ ซึ่งไม่ได้เกิดมามีฐานะการเงินพอที่จะเริ่มต้นอาชีพการงานได้อย่างสะดวกสบาย ผมจึงอดไม่ได้ที่จะรักในความเป็นคนสู้ชีวิต ความมีน้ำอดน้ำทน จนสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายในวัยเยาว์ และสร้างครอบครัวที่เข้มแข็ง มีทั้งภรรยาที่เป็นกัลยาณมิตร และมีลูกซึ่งเป็นอภิชาตบุตรทั้งสองคน ของพี่ชัยพงษ์<br /><br />ในบั้นปลายชีวิตพี่ชัยพงษ์จึงสมบูรณ์ เพราะได้พบเจอ ได้กระทำ และได้ละวาง อย่างครบถ้วน<br />ซึ่งพี่ชัยพงษ์เองก็ตระหนักดีถึงความจริงข้อนี้ พี่ชัยพงษ์จึงมักเปรยให้คนใกล้ชิดฟังบ่อยๆ ว่า<br />“ตอนนี้ ผมไม่ต้องมีห่วงด้านเศรษฐกิจอีกต่อไปแล้ว”<br />แม้ในการพบกันครั้งสุดท้าย พี่ชัยพงษ์ก็ยังเอ่ยถึงความข้อนี้<br /><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 453px; CURSOR: hand; HEIGHT: 270px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3438/3930112293_46d049567e.jpg" border="0" /><br />ลึกๆ แล้วพี่ชัยพงษ์เป็นซ้ายนะครับ ซ้ายในความหมายง่ายๆ ว่า เห็นใจคนส่วนใหญ่และไม่ได้สรรเสริญความมั่งคั่ง กระทั่งไม่ได้อยากจะสะสมสมบัติไว้ให้ลุกหลานล้างผลาญไปสามชั่วคน สงครามของพี่ชัยพงษ์จึงไม่ใช่สงครามทางธุรกิจเหมือนคนทั่วไป หากแต่เป็นสงครามที่จะปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการของระบบทุนนิยม ซึ่งก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่ในบั้นปลาย พี่ชัยพงษ์สามารถทำได้ และประสบชัยชนะในสงครามที่คนส่วนใหญ่ของโลกต้องพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่า<br /><br />จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่พี่ชัยพงษ์จะบอกว่า<br />“ผมหมดห่วงแล้ว” เมื่อตอนพบกันครั้งหลังสุด<br /><br />ผมเองก็เชื่อว่าพี่ชัยพงษ์หมดห่วงแล้วจริงๆ พี่ชัยพงษ์จึงต่อสู้กับโรคร้ายอย่างเข้มแข็ง และจากไปอย่างมีสติ ซึ่งก็ทำให้ผมเชื่อว่า พี่ชัยพงษ์น่าจะได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี หรือที่คนไทยเราเรียกว่า ได้ไปที่ชอบๆ<br /><br />ที่ชอบๆ ของพี่ชัยพงษ์จะเป็นเช่นไรนั้น ผมเองหมดปัญญาจะคาดเดา ผมได้แต่คิดถึงภาพถ่ายเด็กน้อยสี่ห้าคนที่วิ่งเล่นใต้ต้นจำปา ซึ่งพี่ชัยพงษ์ถ่ายไว้ได้ที่จำปาศักดิ์<br /><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 422px; CURSOR: hand; HEIGHT: 438px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3501/3930891342_06e3e03992.jpg" border="0" /><br /><br />ภาพนี้เป็นภาพที่สวยงามทั้งด้านองค์ประกอบ และมีชีวิตชีวาตามอย่างภาพที่ดีควรจะมี เด็กทุกคนยิ้มแย้ม ไม่มีความทุกข์โศกในดวงหน้า สีที่พี่ชัยพงษ์ระบายลงในรูปอย่างบางเบา ก็ยิ่งช่วยทำให้ภาพนี้งดงามจับใจขึ้น<br /><br />ผมมองภาพนี้แล้ว ก็อดคิดไม่ได้ว่า สวรรค์ของพี่ชัยพงษ์ ซึ่งเป็นช่างภาพชั้นเยี่ยม ก็คงอยู่ไม่ไกลจากจำปาต้นนั้น และถ้าท่านลองพิจารณาภาพนั้นให้ดี ลองมองเข้าไปภายในด้วยดวงใจของท่านแล้ว<br />ท่านก็อาจเห็นช่างภาพคนหนึ่งกำลังยืนนิ่งเล็งกล้องไปที่เด็กกลุ่มนั้นอย่างสงบ<br />นั่นล่ะครับ พี่ชัยพงษ์ที่ผมรู้จัก รัก และเคารพ<br /><br />ด้วยความระลึกถึง<br />ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา<br />16 กันยายน 2552 </p><p></p><p></p><p></p>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-28824718810958633182009-08-24T08:08:00.000-07:002009-08-24T09:17:03.746-07:00พาคุณ ’รงค์ เยือนภูเก็ต<a href="http://farm3.static.flickr.com/2560/3852803920_aecacc93f1.jpg"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 353px; CURSOR: hand; HEIGHT: 500px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2560/3852803920_aecacc93f1.jpg" border="0" /></a><br /><div><span style="color:#663366;"></span></div><div><span style="color:#663366;">พาคุณ ’รงค์ เยือนภูเก็ต</span></div><div><br />นิทรรศการภาพถ่าย "สะพานข้ามยุคสมัยของ 'รงค์ วงษ์สวรรค์" จะเดินทางไปแสดงที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ <strong>3 กันยายน ถึง 18 ตุลาคม 2552</strong> โดยจะจัดแสดงใน 3 สถานที่ ได้แก่</div><div></div><ul><li><span style="color:#339999;">วันที่ 3-11 ก.ย. 52 - อาคารระวิจันทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต (เปิดงานวันที่ 3 กันยายน เวลา 15.00 น.)</span> </li></ul><div><span style="color:#cc6600;">กิจกรรม: วันที่ 3 ก.ย. 52 เวลา 13.00 - 15.00 น.</span><br />เปิดวงเสวนาในหัวข้อ "สะพานข้ามยุคสมัยของ 'รงค์ วงษ์สวรรค์" </div><div>ณ ห้องประชุมศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ </div><div>ผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ วรพจน์ พันธุ์พงศ์ ธวัชชัย พัฒนาภรณ์ และวันเสาร์ เชิงศรี กลุ่มวรรณกรรมภูเก็จ</div><div></div><ul><li><span style="color:#339999;">12-28 ก.ย. 52 - ร้านหนัง(สือ) ๒๕๒๑ ถ.ถลาง</span></li></ul><p><span style="color:#cc6600;">กิจกรรม: วันที่ 12 ก.ย. 52 เวลา 19.00 น.</span><br />เสวนาในหัวข้อ ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ ในงาน Book Club ครั้งที่ 2 </p><p></p><ul><li><span style="color:#339999;">4 -18 ตุลาคม - Adex Sign & gallery ถ.บายพาสส์ </span></li></ul><div><span style="color:#cc6600;">กิจกรรม: วันที่ 4 ต.ค. 52 เวลา 17.00 น.</span> </div><div>ร่วมเสวนาภาษาช่างภาพ กับภาพถ่ายของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์</div><div> </div><div> </div><div></div><div></div><div>---------------------------------------------------------------------------</div><div> </div><div> </div><div></div><div><span style="color:#666666;">สำหรับใครที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นชาวภูเก็ตหรือผู้ที่มีโอกาสเดินทางไปภูเก็ตในช่วงนั้น อย่าลืมหาเวลาไปเยี่ยมชมกันนะคะ :-)</span></div><div><span style="color:#666666;"></span> </div><div><span style="color:#666666;"></span> </div><div> </div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-73041233961713375982009-07-20T08:57:00.000-07:002009-07-20T11:12:13.411-07:00Narrative Tableaux: ภาพพรรณนา<div align="left"></div><div align="left"></div><div align="left"><span style="color:#9999ff;"></span><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 221px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2477/3739577316_e662b8377a_o.jpg" border="0" /><span style="color:#999999;"><span style="font-size:78%;"><em> The Colonel's Nightly Visit to Ponil Park</em></span></span> </div><br /><div align="left"><span style="color:#333333;">People Space เชิญทุกท่านร่วมสัมผัส "ภาพพรรณนา" (Narrative Tableaux) ผลงานภาพถ่ายโดย แดน โอเวอร์เทิร์ฟ (Dan Overturf) ศิลปินชาวอเมริกัน ที่บินไกลมาเพื่อร่วมเปิดงานและเปิดวงเสวนาว่าด้วยการถ่ายภาพสารคดีและเบื้องลึกเบื้องหลังการทำงานภาพถ่ายเล่าเรื่อง (Narrative Photography)<br /><br /><span style="color:#990000;">ภาพพรรณนา (Narrative Tableaux)</span> เป็นโปรเจ็คต์ที่แดนริเริ่มขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1990 โดยใช้ฟิล์มขาว-ดำเป็นหลัก แม้ในช่วงเวลาต่อมา เขาจะยุ่งอยู่กับการทำงานงานเชิงสารคดีมากกว่า แต่แง่มุมของการเล่าเรื่องยังคงเป็นสิ่งที่แดนสนใจเสมอมา เส้นแบ่งบางๆ ระหว่างเรื่องราวที่มีอยู่แล้วเพื่อรอการค้นพบ (Found) ซึ่งเป็นหัวใจของงานภาพถ่ายสารคดี กับเรื่องราวที่ถูกเรียงร้อยขึ้นผ่านสายตาของศิลปิน (Fabricated) ซึ่งเป็นมุมมองของปัจเจก ดูเหมือนจะเป็นเส้นแบ่งที่ค่อนข้างเลือนราง แดนมองว่าเรื่องราวทั้งสองรูปแบบต่างเป็นรากฐานของศิลปะการถ่ายภาพรวมไปถึงชีวิต</span><br /></div><br /><br /><p><span style="color:#333333;"></p><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 219px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2594/3739576968_b4cef6ccbb_o.jpg" border="0" /><span style="color:#999999;"> <span style="font-size:78%;"><em>Father's Day in Uncle Swilling's Workshop</em></span></span><br /><br /><div align="left"><span style="color:#990000;"></span></div><div align="left"><span style="color:#990000;">ภาพพรรณนา (Narrative Tableaux)</span> ประมวลขึ้นจากองค์ประกอบหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่แดนมีโอกาสได้อ่าน ได้เห็น หรือได้ฟังจากเกร็ดเรื่องเล่าต่างๆ ด้วยเหตุนี้ งานชุดนี้จึงชวนให้นึกถึงวิธีการเล่าเรื่องแบบที่พบเห็นอยู่ทั่วๆ ไป เพียงแต่แดนเลือกที่จะนำเรื่องราวต่างๆ มาตีความผ่านสื่อภาพถ่ายแทน<br /><br />จุดเริ่มต้นของภาพชุดนี้มาจากหลายแหล่งหลากที่มา เช่นข้อเขียน <em>Narrative of Remarkable Criminal Trials</em> โดย Anslem Ritter von Feuerbach ไปจนถึงข้อสังเกตของเพื่อนบ้านซึ่งทำงานกะดึกในโรงพยาบาลท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังมีการอ้างอิงถึงความรู้ทางประวัติศาสตร์ศิลปะ ท่าทางต่างๆ ที่พบในภาพวาดสมัยเรอเนซองส์เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ ภาพในงานชุดนี้<br /><br />จากจุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจเหล่านั้น แดนเริ่มร่างภาพคร่าวๆ ซึ่งนำไปสู่แก่นเรื่อง (Theme) และผลงานภาพถ่ายที่สำเร็จออกมาเป็นรูปร่าง แม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่ทั้งหมดล้วนผ่านการกลั่นกรองอย่างดีที่สุด ฉากหลังของภาพแต่ละภาพ บางครั้งใช้เวลาออกแบบและติดตั้งหลายเดือน และทั้งหมดถูกทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อภาพแต่ละภาพ เรื่องราวแต่ละเรื่องราว จากนั้นเรื่องราวจะถูกบันทึกด้วยกล้องถ่ายรูป โดยไม่มีการเพิ่มเติมเสริมแต่งใดๆ ในภายหลัง</div><br /><br /><div align="left"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 218px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3450/3738783129_92f77d5e06_o.jpg" border="0" /><span style="font-size:78%;"> <em><span style="color:#999999;">Jodie Santana and the Carlyle Wax Droplets</span></em></span><br /><br />แม้จะยุ่งยาก แต่แดนก็เลือกที่จะทำงานเช่นนี้ เพราะเขาพบว่าการเตรียมสภาพแวดล้อมอย่างเฉพาะเจาะจงสำหรับงานแต่ละชิ้นนั้นให้ผลตอบแทนทางความรู้สึกที่คุ้มค่า ความสนุกและสุขใจอยู่ที่การได้ลงไปสัมผัสความซับซ้อนของกระบวนการก่อนผลิต (Pre-production) การออกแบบฉากและโครงสร้าง การออกแบบแสง การทำอุปกรณ์ประกอบฉาก และการกำกับผู้แสดง<br /><br />และเมื่อทั้งหมดพร้อม ก็จะนำไปสู่ผลลัพธ์สุดท้ายอันสมบูรณ์ในที่สุด</div><br /><div align="left"></div><br /><div align="left"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 221px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3534/3738783375_461f7c8bc3_o.jpg" border="0" /><em><span style="color:#999999;"><span style="font-size:78%;"> Lonnie Swept the Playroom and Swallowed Up All that He Found</span><br /></span></em><br />People Space เชิญชวนทุกท่านให้มาร่วมอ่านเรื่องราวจากภาพถ่ายผ่านสายตาของ แดน โอเวอร์เทิร์ฟ<br />แล้วคุณอาจจะพบว่า ข้างหลังภาพที่ผ่านตาไปมา มีเรื่องราวให้ค้นพบเสมอ</span></div><br /><br /><p><span style="color:#333333;">-----------------------------------------------------------------------</span></p><p><span style="color:#333333;"><span style="color:#cc66cc;"><strong>กิจกรรม:</strong></span><br /><br /><span style="color:#9999ff;">วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม 2552 เวลา 15.00 น.</span><br />- เสวนาการถ่ายภาพสารคดี (Documentary Photography) ผ่านงานชุด A River through Illinois<br /> โดย แดน โอเวอร์เทิร์ฟ<br /><br /><span style="color:#9999ff;">วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2552 เวลา 15.00 น.</span><br />- ถ่ายทอดเบื้องหลังการทำงานชุด “ภาพพรรณนา” (Narrative Tableaux) โดย แดน โอเวอร์เทิร์ฟ <br /> </span></p><p><span style="color:#333333;">-----------------------------------------------------------------------</p><br /><span style="color:#990000;"><span style="font-size:180%;">ภาพพรรณนา : Narrative Tableaux</span><br /></span><br /><div align="left">เปิดแสดงระหว่างวันที่ 9 สิงหาคมถึง 5 กันยายน 2552 </div><div align="left"><span style="color:#33ccff;">วันเปิดนิทรรศการ : วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม 2552 เวลา 16.30 น.</span><br />สถานที่แสดง : People Space แพร่งภูธร<br />เวลาเปิด : เฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ 11 โมงถึง 1 ทุ่ม<br />โทรศัพท์ : 082-785-5594<br />อีเมล : <a href="mailto:people.space@yahoo.com">people.space@yahoo.com</a><br /><a href="http://www.people-space.blogspot.com/">http://www.people-space.blogspot.com/</a> </div><div align="left"></div><div align="left"></div><div align="left"></div><div align="left"><br /></div></span>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-32180210363012582952009-07-10T09:49:00.000-07:002009-07-13T06:58:52.113-07:00In Memory of 'Rong Wongsawan<object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/UUZPrUmWR4w&hl=en&fs=1&rel=0&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/UUZPrUmWR4w&hl=en&fs=1&rel=0&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-5162920070645179662009-06-17T07:30:00.000-07:002009-06-17T07:58:09.058-07:00คนรุ่นเราในเงาเวลาของ 'รงค์ วงษ์สวรรค์<div><embed src="http://widget-7d.slide.com/widgets/slideticker.swf" type="application/x-shockwave-flash" quality="high" scale="noscale" salign="l" wmode="transparent" flashvars="cy=bb&il=1&channel=432345564274865277&site=widget-7d.slide.com" style="width:400px;height:300px" name="flashticker" align="middle"></embed><div style="width:400px;text-align:left;"><a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564274865277&map=1" target="_blank"><img src="http://widget-7d.slide.com/p1/432345564274865277/bb_t043_v000_s0un_f00/images/xslide1.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564274865277&map=2" target="_blank"><img src="http://widget-7d.slide.com/p2/432345564274865277/bb_t043_v000_s0un_f00/images/xslide2.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564274865277&map=F" target="_blank"><img src="http://widget-7d.slide.com/p4/432345564274865277/bb_t043_v000_s0un_f00/images/xslide42.gif" border="0" ismap="ismap" /></a></div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-33687508661750424762009-05-25T21:47:00.000-07:002009-05-26T07:05:56.779-07:00Bridge: สะพานข้ามยุคสมัยของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์<p><a href="http://farm4.static.flickr.com/3634/3565090155_00a23c50ab_o.jpg"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 440px; CURSOR: hand; HEIGHT: 451px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3634/3565090155_00a23c50ab_o.jpg" border="0" /></a><br /><br />ฝนฟ้ายังคงโปรยปรายมาตลอดวันอาทิตย์ของเดือนพฤษภาคม แต่มิตรรักนักอ่านก็ยังสู้อุตส่าห์ฝ่าสายฝนมาร่วมชมภาพถ่ายและฟังเสวนากับนิทรรศการ <span style="color:#999999;">ในเงาเวลาของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์</span> กันอย่างคึกคักจนหลายครั้งเหมือนเกิดม็อบย่อยๆ ที่ PS-แกลเลอรีเล็กๆ ย่านแพร่งภูธร บางวันเครื่องปรับอากาศแทบจะหมดสภาพ และขอลาออกจากการทำงาน ชั่วแต่ว่าทีมงานขอร้องไว้ให้อยู่ช่วยกันไปอีกสักระยะ มันจึงทุลักทุเลผลิตความเย็นแผ่วๆ พอให้ทุกคนได้เหงื่อตกกันถ้วนหน้าที่โถงชั้นล่าง ก่อนจะขึ้นไปรับอากาศที่เย็นชุ่มฉ่ำกว่าบนพื้นที่เสวนาชั้นสอง<br /><br /><a href="http://farm3.static.flickr.com/2443/3566090277_17de93385a_o.jpg"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 450px; CURSOR: hand; HEIGHT: 326px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2443/3566090277_17de93385a_o.jpg" border="0" /></a><br />ความคึกคักอันมักไม่ปรากฏเช่นนี้ ทำให้ PS, openbooks และพันธมิตรตัดสินใจขยายระยะเวลาแสดงงานภาพถ่ายของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ออกไปจนถึงปลายเดือนมิถุนายน นอกจากภาพถ่าย ’รงค์ วงษ์สวรรค์และบรรยากาศสวนทูนอินฝีมือธวัชชัย พัฒนาภรณ์ แล้ว ตลอดทั้งเดือนท่านยังจะได้พบภาพถ่ายชุด <span style="color:#999999;">Bridge-สะพานเชื่อมยุคสมัย ของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์</span> อันมีหลายภาพที่ไม่เคยจัดแสดงมาก่อน </p><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 440px; CURSOR: hand; HEIGHT: 453px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3398/3565090165_f3eb665150_o.jpg" border="0" /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 440px; CURSOR: hand; HEIGHT: 451px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3366/3565090177_dac0d4416f_o.jpg" border="0" /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 440px; CURSOR: hand; HEIGHT: 450px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2445/3565090203_3256dff6aa_o.jpg" border="0" /><br /><br /><br /><p>นอกจากนี้ยังมีรายการเสวนาที่น่าสนใจตลอดทั้งเดือน เพื่อเชื่อมต่อความคิดจากยุคปี 2502 สู่ยุคปี 2552 </p><br /><p><strong><span style="color:#663366;"><span style="color:#993399;">เริ่มจากวันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน 2552 เวลา 18.00 น.</span><br /></span></strong>ทรงกลด บางยี่ขัน บรรณาธิการนิตยสาร a day จะมานั่งลงสนทนากับบอ.บู๋ จากสตาร์ซ็อคเกอร์<br />ในหัวข้อ “คนรุ่นเราในเงาเวลาของ ’รงค์ วงษ์สววรค์”<br /><br /><strong><span style="color:#993399;">วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน 2552 เวลา 18.00 น. เช่นเดิม</span><br /></strong>นักเขียนขายดี “นิ้วกลม” จะมานั่งตั้งคำถามสฤณี อาชวานันทกุล และปกป้อง จันวิทย์<br />ในงานเปิดตัวหนังสือวิชาสุดท้ายเล่ม 2 ด้วยการเสวนาในหัวข้อ<br />“การอ่าน การเขียน และการเรียนรู้ชีวิตจากหนังสือ”<br /><br /><span style="color:#993399;"><strong>อาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน เลื่อนเวลาเร็วขึ้นเป็น 17.00 น.</strong></span><br />นักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดัง “นรา” เตรียมนั่งลงคุยกับช่างภาพชื่อดังมานิต ศรีวานิชภูมิ<br />ในหัวข้อ “อ่าน’รงค์ วงษ์สวรรค์จากภาพถ่าย”<br />(รายการนี้จัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับช่างภาพ)<br /><br /><strong><span style="color:#993399;">ก่อนจะต่อเนื่องด้วยรายการที่หลายคนรอคอยในเวลา 19.00 น.<br />กับการเปิดตัวหนังสือ Postmodern Man</span><br /></strong>ด้วยการเสวนาในหัวข้อ “มนุษย์ ยุคสมัย และความหมาย-จากอารยธรรมโบราณสู่โพสต์โมเดิร์น”<br />โดยไชยันต์ ไชยพร และธเนศ วงศ์ยานนาวา<br />ร่วมจัดโดยสำนักพิมพ์สมมติ ที่พร้อมขนหนังสือสองเล่มใหม่ของธเนศมาลดราคาเป็นพิเศษให้กับผู้ฟัง เช่นเดียวกับหนังสือทุกเล่มของไชยันต์จาก openbooks<br /><br /><span style="color:#993399;"><strong>ปิดท้ายรายการวันที่ 28 มิถุนายน 2552 เวลา 14.00 น.<br /></strong></span>รำลึก 100 วันแห่งการจากไปของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ด้วยปาฐกถาธรรม<br />โดยพระไพศาล วิสาโล ในหัวข้อ “ความตายและความหมายของชีวิต” </p><br /><br /><br /><p></p><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 440px; CURSOR: hand; HEIGHT: 451px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm3.static.flickr.com/2450/3565090193_9f7fc41311_o.jpg" border="0" /><br /><br /><p></p><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 440px; CURSOR: hand; HEIGHT: 454px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3415/3565090199_3079fbb5c1_o.jpg" border="0" /><br />ในงานนอกจากหนังสือใหม่ทุกเล่มของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ในราคาลดพิเศษแล้ว ท่านยังสามารถช่วยซื้อภาพถ่ายขาว-ดำของทั้ง ’รงค์ วงษ์สวรรค์และธวัชชัย พัฒนาภรณ์ ในราคาพิเศษเพื่อสมทบทุนในการนำนิทรรศการชุดนี้ออกแสดงตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ มิตรรักนักสะสมภาพสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ เพราะภาพทั้งหมดล้างอัดด้วยมือบนกระดาษอย่างดีใส่กรอบไม้สวยงามให้ท่านสะสมเป็นของที่ระลึก ซึ่งจะเพิ่มค่าเมื่อเวลาผ่านไป<br /><br /><br /><br /><br /><p>รายละเอียดเพิ่มเติม </p><p>โทร. 080 5501295 หรือ 081 9859691</p><p>Email: <a href="mailto:people-space@yahoo.com">people-space@yahoo.com</a> หรือ <a href="mailto:ps.peoplespace@yahoo.com">ps.peoplespace@yahoo.com</a><br /><br /><br /></p>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-84706910294708420902009-05-25T08:02:00.000-07:002009-05-25T09:20:43.613-07:00<a href="http://farm4.static.flickr.com/3614/3563559602_4718492cb9_o.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 450px; height: 750px;" src="http://farm4.static.flickr.com/3614/3563559602_4718492cb9_o.jpg" border="0" alt="" /></a>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-54649236400568840672009-05-21T12:23:00.000-07:002009-05-21T12:29:24.678-07:00<a href="http://farm4.static.flickr.com/3588/3551582203_3060be40e6_o.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 449px; height: 93px;" src="http://farm4.static.flickr.com/3588/3551582203_3060be40e6_o.jpg" border="0" alt="" /></a><a href="http://farm4.static.flickr.com/3341/3551582311_c05a74affa_o.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 450px; height: 610px;" src="http://farm4.static.flickr.com/3341/3551582311_c05a74affa_o.jpg" border="0" alt="" /></a>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-75348831127732015062009-05-11T10:04:00.000-07:002009-05-11T10:05:36.269-07:00คิดถึง 'รงค์ วงษ์สวรรค์ คิดถึงสวรรค์แห่งชีวิต<div><embed src="http://widget-05.slide.com/widgets/slideticker.swf" type="application/x-shockwave-flash" quality="high" scale="noscale" salign="l" wmode="transparent" flashvars="cy=bb&il=1&channel=432345564274381829&site=widget-05.slide.com" style="width:400px;height:400px" name="flashticker" align="middle"></embed><div style="width:400px;text-align:left;"><a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564274381829&map=1" target="_blank"><img src="http://widget-05.slide.com/p1/432345564274381829/bb_t043_v000_s0un_f00/images/xslide1.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564274381829&map=2" target="_blank"><img src="http://widget-05.slide.com/p2/432345564274381829/bb_t043_v000_s0un_f00/images/xslide2.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564274381829&map=F" target="_blank"><img src="http://widget-05.slide.com/p4/432345564274381829/bb_t043_v000_s0un_f00/images/xslide42.gif" border="0" ismap="ismap" /></a></div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-38824566305332906592009-05-05T01:43:00.000-07:002009-05-05T01:45:11.998-07:00จากบินหลาถึงพญาอินทรีย์+แสงสุดท้ายที่สวนทูนอิน<a href="http://farm4.static.flickr.com/3617/3504005210_4f4a2468a9_o.gif"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 450px; height: 799px;" src="http://farm4.static.flickr.com/3617/3504005210_4f4a2468a9_o.gif" border="0" alt="" /></a>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-70167886938155536542009-05-02T10:30:00.000-07:002009-05-02T11:18:34.547-07:00In the Shadow of Time of Rong Wongsawan<div><embed src="http://widget-b5.slide.com/widgets/slideticker.swf" type="application/x-shockwave-flash" quality="high" scale="noscale" salign="l" wmode="transparent" flashvars="cy=bb&il=1&channel=432345564274260661&site=widget-b5.slide.com" style="width:400px;height:350px" name="flashticker" align="middle"></embed><div style="width:400px;text-align:left;"><a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564274260661&map=1" target="_blank"><img src="http://widget-b5.slide.com/p1/432345564274260661/bb_t043_v000_s0un_f00/images/xslide1.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564274260661&map=2" target="_blank"><img src="http://widget-b5.slide.com/p2/432345564274260661/bb_t043_v000_s0un_f00/images/xslide2.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564274260661&map=F" target="_blank"><img src="http://widget-b5.slide.com/p4/432345564274260661/bb_t043_v000_s0un_f00/images/xslide42.gif" border="0" ismap="ismap" /></a></div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-11453315951387986452009-04-25T12:40:00.000-07:002009-04-25T13:33:55.698-07:00พฤษภาอาลัย ’รงค์ วงษ์สวรรค์<a href="http://farm4.static.flickr.com/3338/3473484115_6805bc3f29_o.jpg"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 302px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3338/3473484115_6805bc3f29_o.jpg" border="0" /></a><br /><br /><div><span style="color:#666666;">ถึงวันนี้คุณ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ จากพวกเราไปได้ร่วมเดือนแล้ว จากไปก่อนที่ความวุ่นวายชนิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินจะปะทุขึ้นในกรุงเทพมหานคร จากทำเนียบรัฐบาลลุกลามไปทั่วเมือง โดยเฉพาะเขตรัตนโกสินทร์ชั้นใน จนทำให้เราเกรงว่า งานแสดงภาพที่เราตั้งใจจะจัดให้คุณ ’รงค์ นั้นจะยังคงดำเนินต่อไปได้หรือไม่ เนื่องจากสถานที่ที่ใช้จัดแสดงย่านแพร่งภูธร ล้วนถูกห้อมล้อมด้วยความรุนแรง<br /></div></span><br /><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 441px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3577/3473483987_8cb312cc72_o.jpg" border="0" /><br /><br /><div><span style="color:#666666;">ครั้นเมื่อความสงบกลับคืนมา แม้จะเป็นการชั่วคราว เราจึงขอส่งข่าวมายังญาติมิตรทุกท่านว่า</span></div><div> </div><div><span style="color:#666666;">ตลอดเดือนพฤษภาคม 2552 นี้ PS แกลเลอรี โดยความร่วมมือของมิตรสหายทั้งหลาย ได้จัดการเปลี่ยนตึกแถวเก่าย่านแพร่งภูธรอายุเลยร้อยปี ให้เป็นสถานที่จัดแสดงภาพถ่ายฝีมือของคุณ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ โดยใช้ชื่อว่า </span><span style="color:#666666;"><span style="color:#cc6600;">ในเงาเวลาของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์</span> </span></div><div><span style="color:#666666;"></span></div><span style="color:#666666;"></span><br /><span style="color:#666666;"><br /><br /><p><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 436px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3378/3474292552_700eab4685_o.jpg" border="0" /><br /></p><p>นอกจากภาพบุคคลสำคัญเช่น ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช แล้ว ยังมีภาพถ่ายประเทศไทยในอดีตที่หาชมได้ยากอีกหลายภาพ ซึ่งแม้จะผ่านกาลเวลามายาวนาน แต่ยังคงคุณค่าและความงดงามจวบจนปัจจุบัน</span></p> <p></p><br /><span style="color:#666666;"></span><br /><span style="color:#666666;"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 440px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3654/3474292618_4de5fdc334_o.jpg" border="0" /><br /><br /><p><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 436px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3397/3474292698_e255470f64_o.jpg" border="0" /></p><p></span></p><span style="color:#666666;"></span><p><br /><span style="color:#666666;"></span><br /><span style="color:#666666;">นอกจากนี้ในงานเดียวกัน ยังมีภาพถ่ายขาว-ดำ ของคุณ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ โดยฝีมือของ ธวัชชัย พัฒนาภรณ์ ช่างภาพที่เคยฝากฝีมือไว้ในหนังสือ ที่เกิดเหตุ ร่วมสร้างความสมบูรณ์ของงานแสดงด้วย </span><br /><span style="color:#666666;"></span><br /><br /><span style="color:#666666;"><br /></p></span><span style="color:#666666;"><p></span><span style="color:#666666;"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 288px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3409/3473484051_b33cda8c86_o.jpg" border="0" /> </span><br /><span style="color:#666666;"></span><br /><span style="color:#666666;">ทั้งหมดนี้เป็นภาพขาว-ดำ ถ่ายด้วยฟิล์ม พิมพ์ด้วยมือ มีขนาดใหญ่พิเศษ ให้รายละเอียดตามเทคนิคดั้งเดิมอย่างครบครัน<br /></span><br /><span style="color:#666666;"><strong><span style="color:#00cccc;">เปิดการแสดงวันแรก ศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.00 น.</span></strong><br /></span><br /><span style="color:#666666;">ในงานทุกท่านจะได้พบกับ นักคิด นักเขียน นักวิจารณ์ และบรรณาธิการ ผู้จะมาร่วมกันกล่าวรำลึกถึง ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ด้วยมาลัยอักษรสั้นๆ ในหัวข้อ </span><span style="color:#cc66cc;">รำพึงรำพันถึงลำพู<br /></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 444px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3630/3473483893_2f19ec3860_o.jpg" border="0" /><br /><br /><br /><p><span style="color:#666666;">------------------------------------------------------------------------</span><br /><br /><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;">กิจกรรมอื่นๆ</span><br /></p><ul><li><span style="color:#663366;"><span style="color:#993399;">อาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.00 น.</span><br /></span>-- พบนักเขียนรางวัลซีไรต์ บินหลา สันกาลาคีรี ในหัวข้อ จากบินหลาถึงพญาอินทรีย์<br />-- พบธวัชชัย พัฒนาภรณ์ ในหัวข้อ แสงสุดท้ายที่สวนทูนอิน<br /><br /></li><li><span style="color:#993399;">วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.00 น.</span><br />-- พบอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ ในหัวข้อ คิดถึง’รงค์ วงษ์สวรรค์ คิดถึงสวรรค์แห่งชีวิต<br /></li><br /><li><span style="color:#993399;">อาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.00 น.</span><br />-- พบ(อดีต)คณะบรรณาธิการ open ครบคน ปราบดา หยุ่น วรพจน์ พันธุ์พงศ์ และภิญโญ ไตรสุริยธรรมากับการเปิดตัวหนังสือ เสียงพูดสุดท้าย (รวมบทสัมภาษณ์ของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์) โดย วรพจน์ พันธุ์พงศ์(สำนักหนังสือไต้ฝุ่น) และ ยี่หวาไชน่า ทาวน์ เรื่องยาวที่ไม่เคยตีพิมพ์รวมเล่มมาก่อนของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์(openbooks)<br /></li><br /><li><span style="color:#993399;">อาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.00 น.<br /></span>-- พบโตมร ศุขปรีชาและชาวคณะ GMbooks กับการเปิดตัวหนังสือ แฝงพวงองุ่น โดย ’รงค์ วงษ์สวรรค์<br /></li></ul><br /><p>------------------------------------------------------------------------</p><br /><p><span style="font-size:180%;color:#cc6600;">ในเงาเวลาของ 'รงค์ วงษ์สวรรค์</span><br /></p><p><span style="color:#666666;">เปิดแสดงระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 7 มิถุนายน 2552</span><br /></p><p><span style="color:#00cccc;">วันเปิดนิทรรศการ: 1 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป</span><br /></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;">สถานที่: People Space แพร่งภูธร</span></p><p><span style="color:#ff99ff;">(เปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ 11.00-19.00 น.)</span><br /></p><p><span style="color:#666666;">ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 081 5491002</span></p><p><span style="color:#666666;">Email: <a href="mailto:people.space@yahoo.com">people.space@yahoo.com</a></span></p><p><span style="color:#666666;"></span> </p><p><span style="color:#666666;">------------------------------------------------------------------------</span></p><p><span style="color:#666666;"></span> </p><p> </p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p><span style="color:#666666;"></span></p><p></p><p><span style="color:#ff99ff;"></span></p>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-48720731285526604692009-02-19T08:19:00.000-08:002009-04-25T12:21:45.585-07:00จาก ฅ. คนข้างฝา ถึงใบหญ้าข้างทาง<a href="http://farm4.static.flickr.com/3553/3472629943_f74b0d5771_o.jpg"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 647px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3553/3472629943_f74b0d5771_o.jpg" border="0" /></a><br /><div><div><div><div><br /><blockquote>ผมเพียงต้องการร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ในช่วงเวลาทำงานถ่ายภาพที่ผ่านมา<br />ผ่านภาพถ่ายผู้คนที่ผมคิดว่าอยากนำมาแขวนไว้ที่ผนังบ้าน<br />และชี้ชวนให้ใครต่อใครได้ชมด้วยกัน<br />ผมเชื่อว่าผู้คนเหล่านี้ได้มอบแรงศรัทธาบางอย่างให้แก่เรา<br />นอกจากภาพคนแล้ว ยังมีภาพทิวทัศน์ต้นไม้ใบหญ้าข้างทาง<br />ที่ผมมักจะถ่ายติดกล้องมาเสมอ<br />ทำให้ตระหนักได้ว่าการเดินทางไม่ว่าใกล้หรือไกล<br />ย่อมมีความงดงามให้เราพักผ่อนคลายได้เสมอ<br />เพียงเราหยุดพักและหันมองมัน<br /><br />ธาตรี แสงมีอานุภาพ</blockquote><div><strong></strong></div><div><strong></strong></div><div><strong></strong></div><div><strong></strong></div><div><strong></strong> </div><div><strong></strong> </div><div><strong></strong> </div><div><strong></strong> </div><div><strong>ธาตรี แสงมีอานุภาพ</strong> จบคณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาการสื่อสารมวลชน จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มต้นการทำงานด้วยการเป็นช่างภาพอิสระที่เชียงใหม่ เขาเข้ามาทำงานที่นิตยสาร OPEN ในช่วงปลายปี 2547 หลังจากนั้นได้ทำงานกับนิตยสารหลายฉบับ เช่น a day weekly ต้าเจียห่าว และนิตยสาร ฅ คน รวมระยะเวลาทำงานได้ประมาณ 4 ปี<br /><br /></div><a href="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/sun01.jpg"></a><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 611px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3332/3472630193_1c363f98e7_o.jpg" border="0" /><br /><br />ในช่วงเวลาเหล่านั้น ธาตรีได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง ปรากฏออกมาผ่านภาพถ่ายจำนวนมาก ทั้งที่ได้รับการตีพิมพ์ตามหน้านิตยสาร และที่เขาเก็บไว้ชมส่วนตัว </div><div><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 645px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3335/3473439680_539cb29397_o.jpg" border="0" /><br /><br /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 645px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3300/3473439622_d926f1a308_o.jpg" border="0" /><br /><br /><div>งานส่วนใหญ่ของเขาเป็นภาพพอร์เทรตบุคคล ซึ่งพยายามจับตัวตนบุคลิกของแบบออกมาอย่างซื่อสัตย์<br />หากแต่ในห้วงเวลาอันผ่อนคลาย กล้องตัวเดียวกันนี้ก็จับตัวตนและบุคลิกของธรรมชาติรอบกายอย่างจริงใจ</div><div><br /></div><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 645px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3547/3472630153_595d3fbc83_o.jpg" border="0" /><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 287px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3660/3473439548_ec9b960b12_o.jpg" border="0" /><br /><a href="http://i300.photobucket.com/albums/nn5/people-space/kanokpong01.jpg"></a><br />มากไปกว่ากระดาษอัดภาพและกรอบรูป <strong>จาก ฅ.คนข้างฝา ถึงใบหญ้าข้างทาง</strong> คือการนำเสนอสิ่งที่ธาตรีมองเห็นและรู้สึก จากใจลึกๆ ที่พ้นไปจากกระดาษหรือกรอบใดๆ<br /><br />------------------------------------------------------------------------<br /><br /><strong>จาก ฅ.คนข้างฝา ถึงใบหญ้าข้างทาง</strong><br />งานแสดงภาพถ่ายโดย ธาตรี แสงมีอานุภาพ<br /><br />แสดงระหว่างวันที่ 1 มีนาคม - 5 เมษายน 2552<br />สถานที่: People Space แพร่งภูธร<br /><br /><br />------------------------------------------------------------------------<br /><br />เปิดนิทรรศการ วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2552<br />ตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป<br /><br />พบกับการเสวนา 2 หัวข้อที่ช่างภาพและผู้ที่สนใจไม่ควรพลาด<br /><br /><strong>- สิ่งที่บรรณาธิการมุ่งหวังจากช่างภาพ</strong><br />พบกับ 3 บรรณาธิการ : เวียง-วชิระ บัวสนธ์ จากสามัญชน อธิคม คุณาวุฒิ จากนิตยสาร way และกฤษกร วงค์กรวุฒิ จากนิตยสาร ฅ.คน<br /><br /><strong>- มุมมองช่างภาพรุ่นใหม่</strong><br />พบกับ 3 ช่างภาพ :อนุชิต นิ่มตลุง จากนิตยสาร mars ปิยะ พิสุทธอานนท์ จากนิตยสารแพรว สุดสัปดาห์ และคเชนทร์ วงศ์แหลมทอง จากนิตยสาร a day<br /><br />ดำเนินวงเสวนาโดย ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา จาก openbooks<br /><br />พร้อมชมการแสดงดนตรีจาก พจนาถ พจนาพิทักษ์<br /><br />ไม่ต้องสำรองที่นั่งหรือเสียค่าใช้จ่ายใดๆ :-)<br /><br />รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 081-5491002<br />http://people-space.blogspot.com</div></div></div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-26625174235962100312009-02-17T03:13:00.000-08:002009-02-17T03:17:34.457-08:00งานรำลึกนักเขียนแห่งหุบเขาฝนโปรยไพร กนกพงศ์ สงสมพันธุ์<div><embed src="http://widget-72.slide.com/widgets/slideticker.swf" type="application/x-shockwave-flash" quality="high" scale="noscale" salign="l" wmode="transparent" flashvars="cy=bb&il=1&channel=432345564269146482&site=widget-72.slide.com" style="width:400px;height:400px" name="flashticker" align="middle"></embed><div style="width:400px;text-align:left;"><a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564269146482&map=1" target="_blank"><img src="http://widget-72.slide.com/p1/432345564269146482/bb_t000_v000_s0un_f00/images/xslide1.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564269146482&map=2" target="_blank"><img src="http://widget-72.slide.com/p2/432345564269146482/bb_t000_v000_s0un_f00/images/xslide2.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=432345564269146482&map=F" target="_blank"><img src="http://widget-72.slide.com/p4/432345564269146482/bb_t000_v000_s0un_f00/images/xslide42.gif" border="0" ismap="ismap" /></a></div></div><br /><br />ขอบคุณทุกๆ ท่านที่มาร่วมรำลึกถึงพี่กนกพงศ์ด้วยกันนะคะ :-)People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-32589440166997491862009-02-05T11:29:00.000-08:002009-04-25T10:30:10.307-07:00งานรำลึกนักเขียนแห่งหุบเขาฝนโปรยไพร: กนกพงศ์ สงสมพันธุ์<a href="http://farm4.static.flickr.com/3608/3473967204_c70557ce9d_o.jpg"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 610px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3608/3473967204_c70557ce9d_o.jpg" border="0" /></a><br /><div><div><br /><div><br /><div><span style="color:#993300;">เชิญร่วมงานรำลึก นักเขียนแห่งหุบเขาฝนโปรยไพร กนกพงศ์ สงสมพันธุ์</span><br /></div><ul><li>เปิดเสวนา "อุดมคติแบบกนกพงศ์" - ขจรฤทธิ์ รักษา ชีวี ชีวา </li><br /><li>ไพวรินทร์ ขาวงาม </li><br /><li>อ่านบทกวี - ศักดิ์ศิริ มีสมสืบ ไม้หนึ่ง ก. กุนที </li><br /><li>บรรเลงดนตรี - มาโนช พุฒตาล<br /></li><li>ภาพยนตร์สั้น - นฆ ปักษนาวิน<br /></li><li>ทรรศนะ-วิจารณ์ - อนุสรณ์ ติปยานนท์<br /></li></ul><br /><p><span style="color:#cc66cc;">ณ PS แกลเลอรี่ [People Space]<br /><br />13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา 19.00 น.</span><br /><br /><br />รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 081 5491002<br />Email: people.space@yahoo.com<br /><a href="http://www.people-space.blogspot.com/" target="_blank" rel="nofollow">http://www.people-space.blogspot.com/</a><br /><br /></p></div></div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-88766242770252927422009-01-04T02:59:00.000-08:002009-04-25T10:31:51.816-07:00Happy New Year 2009<a href="http://farm4.static.flickr.com/3645/3473157091_4fe3eb719a_o.jpg"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 430px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3645/3473157091_4fe3eb719a_o.jpg" border="0" /></a><br /><div><div><div><div>สวัสดีปีใหม่ค่ะ</div></div><br /><br /><p>People Space ขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขและมีสุขภาพที่แข็งแรงในปีที่มาถึงนี้</p><p>ขอบคุณสำหรับกำลังใจและการมาเยี่ยมเยือนพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้</p><p>หวังว่าจะได้พบกันใหม่นะคะ</p><br /><p><span style="color:#cc66cc;">ติดตามความเคลื่อนไหวของนิทรรศการและกิจกรรมในปี 2009 ได้เร็วๆ นี้ค่ะ</span></p><br /><br /><p></p></div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6859775727249669055.post-22870880015486072462008-10-17T01:09:00.000-07:002009-04-25T11:33:36.790-07:00<a href="http://farm4.static.flickr.com/3320/3473158867_8f798c3b39_o.jpg"><img style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 430px; CURSOR: hand; HEIGHT: 430px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://farm4.static.flickr.com/3320/3473158867_8f798c3b39_o.jpg" border="0" /></a><br /><div><a href="http://farm4.static.flickr.com/3351/3449096373_e357e33afc_o.jpg"></a><div><div> </div><div> </div><div> </div></div></div>People Spacehttp://www.blogger.com/profile/08060636962583101903noreply@blogger.com0